Investment Articles

ประหยัด ออมเงินได้ แต่ลงทุน(ยัง)ไม่เป็น ควรทำอย่างไร ?

มีคำถามจากเพื่อนสมาชิกมาจากทางหลังไมค์ น่าสนใจ จึงขอนำมาแช์เป็นบทความครับ

1. ABCD (Nov 3rd, 2:55pm): สวัสดีค่ะหนูชื่อ ABCD (ผมสมมติขึ้นมาแทนชื่อจริง) อยากรวยค่ะ ขอบพระคุณมากค่ะถ้าคุณช่วยตอบคำถามต่อไปนี้ให้กับหนู หนูอายุ 22 ทำงานหาเงินเลี้ยงลูกคนเดียวแต่ตอนนี้ยังมีภาระคือส่งค่ารถ ค่าเรียนของตัวเองและค่าบัตรเครดิตค่ะซึ่งระหว่างที่หนูกำลังเรียนอยู่นี้ หนูมีลูกอยากจะออมเงินไว้ให้ลูกและตัวเองค่ะ แต่ตอนนี้หนูอยากหาความรู้ในส่วนนี้พอจะแนะนำหน่อยได้หรือเปล่าค่ะว่าจะอ่านส่วนไหนให้ตรงจุดดี ก่อนที่จะลงทุนค่ะ เอาแบบว่าแนะนำตรงส่วนไหนแล้วให้ศึกษาส่วนไหนดีแบบลงตัวเลยค่ะ ลงทุนสัก10 ปี พอดีหนูอ่านแล้วยังพองง ๆ อยู่ค่ะเลยอยากได้คำแนะนำเพิ่มเติมค่ะ ช่วยหน่อยนะค่ะ ขอบคุณค่ะ

screenshot.3

2. TIF (Nov 3rd, 4:27pm): ขอสัมภาษณ์ก่อนครับ จะได้ช่วยได้เต็มที่

1. รายได้หลังหักภาษี เดือนละเท่าไร คิดว่าอีก 3 ปี จะเป็นเดือนละเท่าไร

2. ค่าใช้จ่ายกินอยู่ของทุกคนที่เราต้องรับผิดชอบ เดือนละเท่าไร และเช่นกัน อีก 3 ปี คิดว่าจะเป็นเดือนละเท่าไร

(2 ข้อแรก ถ้าประมาณอนาคตยาก อาจจะให้ลองคิดว่า 1-2 ปีที่ผ่านมา มันเพิ่มมาเท่าไร แล้วก็ใช้อัตราเดียวกัน)

3. ทำงานด้านไหนอยู่ และมีทีท่าจะรุ่งแค่ไหน ถ้าตั้งใจทำงานนี้ให้เต็มที่ จะมีโอกาสกาสเติบโตไปจุดไหนบ้าง ในอีก 3 ปีข้างหน้า

4. มีความรู้ด้านการเงินการลงทุนมากน้อยแค่ไหน

เอาใจช่วยครับ 🙂

3. ABCD (Nov 4th, 9:07am): ตอบข้อ1 ค่ะรายได้หลังหักภาษี 3ปี คิดว่าจะเป็นเงินเดือนละ 25000 ค่ะ

ข้อ 2 ค่ากินอยู่ตอนนี้ 3000 บาทต่อเดือน ถ้าอีก 3 ปีคิดว่าน่าจะอยู่ที่ 6000 ต่อเดือนค่ะ ไม่รวมค่าใช้จ่ายอย่างอื่นเพราะคิดว่าไม่มีสิ่งที่จะเอาเพราะไม่จำเป็นแล้วมีหมดแล้ว แต่ค่าที่ต้องจ่าย จะมีค่าเทอมลูกปีละครั้งและส่งให้ทางบ้านเดือน 3000 ค่ะ (ส่วนตัวเป็นคนประหยัดอยู่แล้วค่ะ)

ตอบข้อ 3 ค่ะหนูทำงานเป็น Technician QA QC ค่ะโอกาศเติบโตคงไม่มีค่ะ แต่ที่หนูอยู่ที่นี่เพราะยังเรียนใกล้โรงงานนี้ค่ะเลยยังไม่ไหนไม่ได้ แต่พอหนูเรียนจบจะย้ายไปทำงานที่เงินเดือนมากกว่านี้ค่ะคือ 30000 ขึ้นค่ะ เค้ารับหนูแล้วค่ะหนูตกลงว่าเรียนจบหนูจะไปทาง รง.เค้าก็โอเคค่ะ เพราะรู้จักกัน

ตอบข้อ 4 ค่ะ ความรู้ด้านการเงินพอรู้ค่ะส่วนมากอ่านและทำความเข้าใจในหนังสือค่ะ
ส่วนการลงทุนประสบการณ์จริงยังไม่เคยค่ะ แต่อ่านจากในหนังสือ สรุปคือยังรู้ในส่วนที่ตัวเองว่าเข้าใจแล้วยังน้อยอยู่ค่ะ

ปล.แต่เป็นคนชอบอ่านและศึกษาในส่วนที่สนใจอยู่เสมอค่ะ แต่ไม่มีคนสอนและแนะนำค่ะเพราะหนูเป็นคนบ้านนอกแต่หนูชอบคิดและแหวกแนวคนอื่นค่ะ คือประมานว่าต้องวางแผนว่าอนาคตต้องเป็นแบบนี้และก็จะมีคนมาขัดคือบอกว่าเป็นไปไม่ได้หรอกแต่หนูกับคิดว่าคนอื่นทำได้เราทำไมทำไม่ได้แต่หนูก็ยังชื่อสัตย์กับความคิดและใจหนูอยู่ค่ะ ว่าเราต้องทำได้

4. TIF (Nov 4th, 2:04pm): เท่าที่อ่านดู เท่ากับว่ามีเงินเหลือเดือนละหมื่นกว่าบาท ซึ่งนับว่าไม่น้อยเลยครับ ปีหนึ่ง ๆ เก็บเงินได้อย่างน้อยแสนกว่าบาท แถมยังไม่รวมดอกผลจากเงินนี้ซะด้วย

แปลว่า เป็นคนที่ออมเงินได้ดีมาก ขอชื่นชมเลยครับ อนาคตต้องสบายขึ้นแน่นอน

1. ในเบื้องต้น อยากให้ไปติดต่อแบงก์ที่สะดวก เปลี่ยนจากเงินฝากออมทรัพย์ที่ได้ดอกเบี้ยต่ำมาก ๆ (0.6% ต่อปี) มาเป็นกองทุนรวมตลาดเงิน (Money Market Fund) ที่ได้ผลตอบแทนประมาณ 2% กว่า ต่อปี … คือช่วงแรกที่ยังไม่รู้จะทำอะไร อย่างน้อยให้เงินมันทำงานให้คึกคักขึ้นอีกซักหน่อย

2. ระหว่างนี้ ก็หาความรู้เรื่องการลงทุน เพิ่มเติมไปเรื่อย ๆ โดยจะเริ่มจากแหล่งนี้ก็ได้ครับ ส่วนใหญ่เป็นหลักสูตร “ฟรี” ครับ แถมโหลดไฟล์มาอ่านเองก็ได้ หรือจะไปฟังสัมมนาก็ได้ครับ  www.tsi-thailand.org/index.php?option=com_content&task=view&id=1274&Itemid=1302

screenshot.4

เน้นไปที่หัวข้อ 01 02 05 และ 06 ก่อนนะครับ … ส่วน 03 และ 04 มันจะ advance ไปนิดนึง ณ ตอนนี้ เอาไว้อ่านขั้นต่อไปครับ

3. แล้วพอมีความรู้มากขึ้น เราก็จะเข้าใจการลงทุนที่ซับซ้อนขึ้น มีโอกาสหาผลตอบแทนสูงขึ้น ได้ครับ แล้วค่อย ๆ เปลี่ยนเงินที่ได้ผลตอบแทนต่ำ มาเป็นที่ให้ผลตอบแทนสูงขึ้นต่อไปครับ … ที่ไม่อยากแนะนำการลงทุนเป็นตัว ๆ หรือที่ซับซ้อนไปเลยในตอนนี้ เพราะเดี๋ยวจะงงและกลัวไปเลย หรือไม่ก็กล้าแต่เอาไม่อยู่แล้วจะขาดทุนได้ครับ … ค่อย ๆ ไปนะครับ เรามีความสามารถในการเก็บเงินอยู่แล้ว ไม่ต้องใจร้อนครับ

มีคำถามเพิ่มเติมก็่ส่งมาได้เลยนะครับ ขอให้โชคดี มีความรู้ มีเงินทองเพิ่มพูนครับ 🙂

5. ABCD (Nov 4th, 2:51pm): ขอบคุณมากนะค่ะที่ให้คำแนะนำ หนูจะทำตามที่คุณแนะนำค่ะ รบกวนสอนด้วยค่ะ ขอบคุณมากๆเลย ถ้ามีอะไรจะถามจะส่งกลับไปนะค่ะ

6. TIF (Nov 4th, 4:05pm): อ้อ เรื่องการทำงานประจำ ก็อย่าทิ้งนะครับ ทำให้เจริญก้าวหน้าเท่าที่จะทำได้ ถ้าต้องสอบเอาวุฒิ หรือต้องเรียนต่อ ก็อาจจะต้องทำ ถ้ามันช่วยให้ชีวิตในระยะยาวดีขึ้นได้อีกหลายขั้น แถมยังเป็นแหล่งรายได้หลักที่มั่นคงพอสมควรด้วยครับ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *