(ถ้าเครื่องใครโหลด Sub Thai ไม่ขึ้น กดเข้าไปดูได้ที่ TED ครับ)
วิลเลี่ยม คัมแควมบ้า หนุ่มน้อยวัย 14 ปีชาวมาลาวี มาจากครอบครัวที่สุดยากจน มีอาหารทานวันละ 1 มื้อ แถมไร่นาก็เจอฝนแล้งอย่างหนักเป็นเดือน ๆ แต่ด้วยความรักการเรียนรู้ ชอบอ่านหนังสือวิทยาศาสตร์ (โรงเรียนไม่มีอินเตอร์เนท) จนวันหนึ่งได้ศึกษาเรื่องกังหันลม ซึ่งใช้วิดน้ำทำการเกษตรและผลิตไฟฟ้าได้ เขาจึงตระเวณรวบรวมวัสดุจากกองขยะ แล้วก็นำมาสร้างเป็นกังหันลมทำเองที่ผลิตกระแสไฟฟ้าได้จริง
GDP per capita ของ Malawi เทียบกับบางประเทศ ณ ปี 2013 (ข้อมูลจาก World Bank โดย Google)
(คำแปลฉบับเต็ม Translated by Teerachart Prasert Reviewed by Bank Photiruk Saengsawang)
“ขอบคุณครับ 2 ปีที่แล้ว ผมพูดที่เวที TED ที่เมืองอารุชา แทนซาเนีย ผมบรรยายเรื่องสิ่งประดิษฐ์ ที่ผมภูมิใจที่สุดของผมแบบสั้นมากๆ มันเป็นเครื่องจักรง่ายๆ ที่เปลี่ยนชีวิตผม
ก่อนหน้านั้น ผมไม่เคยไปไหน ไกลๆจากบ้านของผมในมาลาวีมาก่อนเลย ผมยังไม่เคยใช้คอมพิวเตอร์ ผมยังไม่เคยใช้อินเทอร์เน็ต ในวันนั้นที่ขึ้นพูดบนเวที ผมประหม่ามาก ผมลืมภาษาอังกฤษหมด ผมอยากอาเจียนเลยด้วยซ้ำ(หัวเราะ) เป็นครั้งแรกที่ผมถูกล้อมหน้าล้อมหลังด้วย ‘อะซุงกู’ คนขาวน่ะครับ (หัวเราะ)
ตอนนั้น มีบางเรื่องที่ผมคงจะไม่เล่าให้พวกคุณฟัง แต่ตอนนี้ ผมรู้สึกสบายดีแล้วครับ และผมอยากเล่าเรื่องนั้นในวันนี้ ครอบครัวผมมีพี่น้องทั้งหมด 7 คน ทุกคนเป็นผู้หญิง ยกเว้นผม นี่คือรูปที่ผมถ่ายกับคุณพ่อตอนที่ผมยังเป็นเด็ก ก่อนที่ผมจะค้นพบความมหัศจรรย์ของวิทยาศาสตร์นั้น ผมเป็นเพียงแค่ชาวนาธรรมดาๆ ในประเทศที่มีแต่ชาวนายากจน เช่นเดียวกับทุกคน เราปลูกข้าวโพด
มีอยู่ปีหนึ่ง เราโชคร้ายมาก ในปี 2001 เราเผชิญภัยแล้งอย่างหนัก ในเวลา 5 เดือน ชาวมาลาวีก็เริ่มอดอยากจนตาย ครอบครัวของผมต้องกินอาหารแค่มื้อเดียวทั้งวัน ในตอนกลางคืนพวกเราแต่ละคนได้กินขนมปังนาซิมาแค่ 3 คำเท่านั้น อาหารผ่านเข้าร่างกายเราจนเราหมดเนื้อหมดตัว
ในโรงเรียนมัธยมประเทศมาลาวีนั้น คุณต้องจ่ายค่าเล่าเรียนด้วย เพราะว่าความหิวโหย ผมเลยต้องลาออกจากโรงเรียนผมมองดูพ่อผม และมองดูไร่ที่แห้งผาก มันเป็นอนาคตที่ผมไม่สามารถยอมรับได้
ผมรู้สึกดีใจมาก ที่ได้เรียนในโรงเรียนมัธยม ผมเลยตั้งใจว่าจะทำทุกอย่างเท่าที่เป็นไปได้ เพื่อให้ได้รับการศึกษา ผมเลยไปห้องสมุด ผมอ่านหนังสือ หนังสือวิทยาศาสตร์ โดยเฉพาะฟิสิกส์ ผมอ่านภาษาอังกฤษได้ไม่เก่งเท่าไหร่ ผมเลยใช้แผนภูมิ และรูปภาพ เพื่อเรียนคำศัพท์ในหนังสือ
มีหนังสืออีกเล่มหนึ่ง ที่ทำให้ผมได้ความรู้เรื่องนั้นมา มันเขียนว่า กังหันลมใช้สูบน้ำและผลิตไฟฟ้าได้ สูบน้ำก็หมายถึงชลประทาน เป็นวิธีป้องกันจากความหิวโหยที่เรากำลังเผชิญอยู่ในตอนนั้น ผมเลยตัดสินใจสร้างกังหันลมขึ้นอันนึงด้วยตัวเอง แต่ผมไม่มีวัสดุที่จะใช้ ผมเลยไปที่ลานทิ้งขยะ ที่ซึ่งผมได้วัสดุของผม หลายๆคนรวมถึงแม่ผมบอกว่าผมบ้า (หัวเราะ)
ผมเจอใบพัดรถแทรกเตอร์ โช้คอัพ ท่อพีวีซี ผมใช้กรอบล้อจักรยาน กับไดนาโมจักรยานยนต์เก่าๆ เพื่อสร้างเครื่องจักรของผม ตอนแรกจุดไฟติดได้หนึ่งหลอด ต่อมาได้สี่หลอด กับสวิทช์ พร้อมกระทั่งตัวตัดวงจร สร้างตามมิเตอร์ไฟฟ้า อีกเครื่องหนึ่ง ไว้สูบน้ำทำชลประทาน
หลายคนเริ่มมาต่อแถวกันหน้าบ้านของผม (หัวเราะ) เพื่อชาร์จโทรศัพท์มือถือ (ปรบมือ) ผมก็ขจัดพวกเขาไม่ได้ด้วย (หัวเราะ) แล้วนักข่าวก็มาด้วย ซึ่งนำไปสู่นักเขียนเว็บบล็อกอีกหลายคน แล้วก็นำไปสู่การรับโทรศัพท์จากอะไรบางอย่างชื่อ TED ผมไม่เคยเห็นเครื่องบินมาก่อน ผมไม่เคยนอนในโรงแรมมาก่อน วันนั้น บนเวที ที่เมืองอารุชา [เมืองใหญ่แห่งหนึ่งในประเทศแทนซาเนีย] ผมเลยลืมภาษาอังกฤษหมด ตอนนั้นผมพูดทำนองว่า “ผมลองดู แล้วผมก็สร้างมัน”
ผมเลยอยากจะพูดอะไรบางอย่าง กับผู้คนข้างนอกนั้น ที่เป็นคนแอฟริกา และยากจนเหมือนผม คนที่กำลังต่อสู้เพื่อทำความฝันให้เป็นจริง ขอพระเจ้าอวยพระพร สักวันหนึ่ง คุณอาจได้ดูสิ่งนี้ทางอินเทอร์เน็ต ผมขอบอกคุณว่า จงเชื่อในตนเอง และศรัทธา ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น อย่ายอมแพ้ ขอบคุณครับ (ปรบมือ)”
– William Kamkwamba TEDGlobal 2009 –
เช่นเคย คลิปนี้มีคนดูไปแล้ว 1.4 ล้านครั้ง + ได้รับ Standing Ovation จากผู้ชมสด + มีคนไทยใจดีแปลไทยให้ + ยาวแค่ 6 นาที
ใครพอจะมีเวลา 6 นาที ชวนดูครับ สร้างแรงบันดาลใจในการใฝ่รู้ได้มากโข แถมยังได้เห็นความเป็นจริงในโลกนี้ ว่าคนที่ลำบากกว่าเรายังมีอีกเป็นพันล้านคน … ใครที่มีโอกาสมากมาย ใช้ให้เต็มที่ครับ
Categories: Thoughts & Quotes