ใครที่ติดตามเฟสบุุ๊คของ Mark Zuckerberg Bill Gates หรือท่าน Sir Richard Brandson อาจจะเห็นชื่อ Breakthrough Energy Coalition โผล่ขึ้นมาแว้บ ๆ

Breakthrough Energy Coalition (ขอเรียกสั้น ๆ ว่า BEC) คือโครงการความร่วมมือของกลุ่มนักลงทุน Venture Capitalist (หรือ VC) ระดับโลก รวมถึงผู้ก่อตั้งธุรกิจขนาดมหึมา จำนวนหลายสิบคน เพื่อรวมกำลังความคิดและกำลังเงิน ไปลงทุนในธุรกิจด้านพลังงานยุคใหม่ ที่จะช่วยให้โลกเราน่าอยู่ไปได้อีกนานขึ้น

“VC คือนักลงทุน ทั้งในรูปบุคคลและบริษัท ที่เน้นลงทุนในธุรกิจก่อตั้งใหม่ที่มีไอเดียดี ธุรกิจมีโอกาสเติบโตสูงมาก ๆ แต่คนทั่วไปและสถาบันการเงินปกติยังไม่กล้าให้กู้ยืมเงินหรือร่วมลงทุน … บริษัทชื่อดังระดับโลกซึ่งเคยได้รับเงินทุนจาก VC ในช่วงก่อตั้ง อาทิเช่น Facebook, Uber, Airbnb ฯลฯ”

และตามที่จั่วหัวไว้ ว่า BEC นี้คือโปรเจคของเหล่ามหาเทพ ลองมาเช็คชื่อกันว่าโครงการนี้มีใครมาร่วมด้วยบ้าง (ยกตัวอย่างมาบางท่าน)

Mukesh Ambani เจ้าของ Reliance Industries ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของอินเดีย (ทรัพย์สินส่วนตัว 2.13 หมื่นล้านเหรียญ หรือ เจ็ดแสนล้านกว่าบาท)

Bill Gates ผู้ก่อตั้ง Microsoft (ทรัพย์สินส่วนตัว 7.93 หมื่นล้านหรียญ หรือ 2.77 ล้านล้านบาท)

Jeff Bezos ผู้ก่อตั้ง Amazon.com (ทรัพย์สินส่วนตัว 5.89 หมื่นล้านเหรียญ หรือ 2.06 ล้านล้านบาท)

Richard Brandson ผู้ก่อตั้ง Virgin Group (ทรัพย์สินส่วนตัว 4.9 พันล้านเหรียญ หรือ 1.72 แสนล้านบาท)

Ray Dalio ผู้ก่อตั้ง Bridgewater Associates บริษัทบริหารการลงทุนที่มีสินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการ 1.69 แสนล้านเหรียญ หรือ 5.92 ล้านล้านบาท เกือบครึ่งหนึ่งของ GDP ประเทศไทย (ทรัพย์สินส่วนตัว 1.57 หมื่นล้านเหรียญ หรือ 5.50 แสนล้านบาท)

Reid Hoffman ผู้ก่อตั้ง LinkedIn.com โซเชียลเน็ทเวิร์คระดับโลกของคนทำงาน (ทรัพย์สินส่วนตัว 4.6 พันล้านเหรียญ หรือ 1.61 แสนล้านบาท)

Jack Ma ผู้ก่อตั้ง Alibaba Group (ทรัพย์สินส่วนตัว 2.36 หมื่นล้านเหรียญ หรือ 8.26 แสนล้านบาท)

Hasso Plattner ผู้ก่อตั้ง SAP ระบบบริหารทรัพยากรองค์กรระดับโลก (ทรัพย์สินส่วนตัว 9.4 พันล้านเหรียญ หรือ 3.29 แสนล้านบาท)

Massayoshi Son ผู้ก่อตั้ง SoftBank Group บริษัทสื่อสารชั้นนำของญี่ปุ่น ผู้ร่วมลงทุนกลุ่มแรก ๆ ใน Alibaba (ทรัพย์สินส่วนตัว 1.28 หมื่นล้านเหรียญ หรือ 4.48 แสนล้านบาท)

George Soros ผู้ก่อตั้งและประธาน Soros Fund Management (ทรัพย์สินส่วนตัว 2.45 หมื่นล้านเหรียญ หรือ 8.58 แสนล้านบาท)

Mark Zuckerberg และ Dr. Priscilla Chan ผู้ก่อตั้ง Facebook และภรรยา (ทรัพย์สินส่วนตัวเฉพาะของ Mark 4.46 หมื่นล้านเหรียญ หรือ 1.56 ล้านล้านบาท)

(ดูรายชื่อผู้ร่วมโปรเจค BEC แบบครบ ๆ ได้ที่นี่ www.breakthroughenergycoalition.com/en/who.html)

โดย BEC มีวัตถุประสงค์เน้นร่วมลงทุนในธุรกิจพลังงานยุคใหม่ ที่จะช่วยให้มนุษย์โลกมีพลังงานใช้อย่างยั่งยืนไปได้อีกนาน ซึ่งมีหลักการลงทุนแบบเข้มข้น 5 ประการดังนี้

1. Invest early — จะเข้าลงทุนเป็นกลุ่มแรก ๆ เพื่อให้โครงการใหม่ ๆ ดี ๆ มีศักยภาพเกิดได้จริง
2. Invest broadly — จะลงทุนในทุกเรื่องที่เกี่ยวกับพลังงาน ไม่มีข้อจำกัด ทั้งการผลิตไฟฟ้า การขนส่ง อุตสาหกรรม เกษตรกรรม และระบบการบริหารพลังงาน
3. Invest boldly — จะลงทุนหลายหลายรูปแบบ ทั้งการสร้างเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่ยังไม่เคยมี และการต่อยอดเทคโนโลยีเดิมให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น
4. Invest wisely — จะสร้างความร่วมมือกับทุกองค์กรทั้งเอกชนและองค์กรรัฐ เพื่อให้ได้ทีมงานตัดสินใจลงทุนที่มีประสิทธิภาพสูงสุด
5. Invest together — จะเน้นสนับสนุนโครงการที่อยู่ในประเทศซึ่งให้ความสำคัญกับการพัฒนาเทคโนโลยีพลังงาน

การลงทุนให้ประสบความสำเร็จอย่างสูง เงินไม่ใช่ปัจจัยสำคัญที่สุด แต่ไอเดีย และการบริหารโปรเจคให้ “เกิด รอด และโต” ได้จริง เป็นปัจจัยที่สำคัญกว่า ซึ่งชัดเจนว่า BEC มีปัจจัยเหล่านี้อย่างครบถ้วน ซึ่งต้องติดตามกันต่อไปว่า BEC ของเหล่ามหาเทพจะสนับสนุนธุรกิจอะไรบ้าง แต่อย่างน้อยที่สุดก็เป็นที่น่าดีใจมาก ที่เหล่า VC และ Founder ระดับโลก สามารถจับมือกันผลักดันให้สิ่งดี ๆ เกิดขึ้นกับโลก ให้โลกเราอยู่ได้ต่อไปอย่างยั่งยืน แถมเหล่ามหาเทพใน BEC เอง ก็ได้โอกาสต่อยอดความั่งคั่งไปอีกขั้น ผ่านการลงขันร่วมลงทุน

“งานนี้ เรียกได้ว่าครบทั้ง 3 Wins … BEC ก็ Win เจ้าของไอเดียที่ได้การสนับสนุนจาก BEC ก็ Win และโลกของเราก็ Win”

ป.ล. หรือนี่จะเป็นเหตุผลหนึ่ง ที่ทำให้ราคาน้ำมันดิบ ซึ่งถือเป็นพลังงานยุคดั้งเดิม ร่วงลงมาได้ขนาดนี้ …