Financial Markets Update

สรุปภาวะตลาด: วันศุกร์ที่ 4 ธ.ค. 58

screenshot.600

ยังไม่สวย … ระยะสั้นเป็นขาลง ระยะกลางก็เช่นกัน // เงินบาททรงตัวอยู่ที่ 35.7x THB/USD ปลาย ๆ // ดัชนีหุ้นไทยลบ // ตลาดหุ้นสหรัฐฯ บวกแรง หลังตัวเลขการจ้างงานออกมาดี และประธานธนาคารยุโรปให้สัมภาษณ์ว่าจะไม่จำกัดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ส่วนตลาดยุโรปปิดลบเล็กน้อย น่าจะเพราะปิดตลาดไปก่อนข่าวดีจะออก // ทองคำบวกตามหุ้น ส่วนน้ำมันดิบลบตามกระแสข่าวที่จะมี supply การผลิตในตลาดโลกมากขึ้นWrapup041215กราฟจาก บริการเอสเพน (คลิกที่รูป เพื่อชมขนาดใหญ่ขึ้น)

สถานะของตลาดและของปัจจัย

  1. แนวโน้มตลาดระยะกลาง-ยาว (กราฟซ้ายบน): กลับเป็นขาลงเรียบร้อยตั้งแต่สัปดาห์ก่อน และก็ลงต่อเนื่องด้วย
  2. แนวโน้มตลาดระยะสั้น (กราฟซ้ายกลาง): พลิกกลับเป็นขาลงเช่นกัน
  3. การซื้อขายสุทธิของนักลงทุน: ฝรั่งยังขายในตลาดหุ้น (ขายมาตั้งแต่กลางปี) แต่กลับมาซื้อเล็กน้อยในตลาดฟิวเจอร์ส
  4. เงินบาท: ทรงตัวอยู่ที่ 35.7x THB/USD ปลาย ๆโดยแนวโน้มระยะกลางยังเป็นฝั่งแข็งค่า
  5. ตลาดหุ้นต่างประเทศ: สหรัฐฯ บวกตามข่าวดี ยุโรปติดลบ เพราะน่าจะปิดตลาดไปก่อนข่าวดีจะออกscreenshot.439
  6. ราคาสินค้าโภคภัณฑ์: ทองคำบวกตามตลาดหุ้น ส่วนน้ำมันลบตามข่าว OPEC ยังรักษากำลังการผลิตไว้เท่าเดิม และจะไม่กำหนดเพดานการผลิตด้วยscreenshot.441

สรุปมุมมอง เมื่อใช้ SET Index เป็นตัวแทนของหุ้นโดยรวม …

  • หากมองตลาดในกรอบเวลาหลายสัปดาห์-หลายเดือน (Weekly time frame) หลังจากตลาดพลิกเป็นขาขึ้นเมื่อ 9 สัปดาห์ก่อนด้วยการเด้งแรงในช่วงสัปดาห์เดียว (ตอนนั้น) ตลาดก็อ่อนแรงลงมาตลอดทาง จนตอนนี้กลับเป็นขาลงอย่างเป็นทางการเรียบร้อย ติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 2 … ใครที่มีเงินสด ถือไว้จะเป็นการดี ใครที่มีหุ้น ทยอยลดสัดส่วนลง
  • หากมองตลาดในกรอบเวลาหลายวัน (Daily time frame) เป็นขาลงเช่นกัน … ใครมีเงินสด/Money Market Fund ถือไว้ ใครมีหุ้น ถ้าตลาดลงต่อ น่าทยอยขาย … ช่วงนี้ระยะสั้นแกว่งไปมาหลายรอบ ใครจะถอยออกมาจากรอบเวลา Daily แล้วว่าตามกรอบเวลาแบบ Weekly ไปพลางก่อน ก็อาจจะช่วยให้จิตใจนิ่งขึ้นได้

ชวนทำความเข้าใจ

  • ข้อมูลที่ได้จากกราฟ ซึ่งใช้เครื่องมือ MACD เป็น “ผล” จาก “เหตุปัจจัยต่าง ๆ” เท่านั้น ไม่ว่าจะเป็น การเมืองไทย การเมืองโลก เศรษฐกิจไทย เศรษฐกิจโลก ภาวะธุรกิจตลอดจนข่าวของบริษัทเอง ฯลฯ … เราจึงดูกราฟเพื่อให้รู้ว่าปัจจัยต้นเหตุต่าง ๆ ในช่วงนี้ ส่งผลต่อราคาในช่วงนี้ต่อไปถึงอนาคต “ใกล้ ๆ” อย่างไรบ้าง … แต่เราไม่สามารถเอากราฟซึ่งเป็น “ผล” กลับไปพยากรณ์ “เหตุ” ในอนาคตได้ กราฟไม่สามารถพยากรณ์การประกาศมาตรการ QE ล่วงหน้าได้ กราฟไม่สามารถกำหนดเนื้อหาใน Speech ของประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือยุโรปได้ … อาการของราคาหุ้นในตอนนี้จึงไม่สามารถใช้คาดการณ์ราคาหุ้นในอนาคต “ไกล ๆ” ได้อย่างมีเหตุผลเช่นกัน ไม่ว่าจะใช้เครื่องมืออะไร แนวเทคนิกแบบไหนก็ตาม
  • ข้อมูล ณ ที่นี้ใช้ SET Index เป็นตัวแทน เพื่อให้นำเสนอข้อมูลภาพรวมได้จริงในทางปฏิบัติ ภาวะของหุ้นรายตัวอื่น ๆ อาจต่างไปจากภาวะของตลาดโดยรวมก็ได้ นักลงทุนจึงควรพิจารณาสถานะของหุ้นรายตัวที่นักลงทุนสนใจ ควบคู่กันไป

#ว่ากันตามข้อมูล #ค่อยๆดูไป #รีบปรับตัว #อย่าฝืนความจริง

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *