เมื่อวันที่ 25 ก.พ. 60 ที่ผ่านมา Berkshire Hathaway (BRK) บริษัท Holding Company ของคุณปู่ Warren Buffett มีการเปิดเผย รายงานประจำปี 2559 ออกมา ซึ่งตัวเลขประจำปีที่ BRK จะต้องอัพเดททุกปี นั่นคือตัวเลขผลตอบแทนจากหุ้น BRK เทียบกับดัชนี S&P500
โดยในปี 2559 ที่ผ่านมา หุ้น BRK บวกขึ้นมา 23.4% เทียบกับ S&P500 ที่เพิ่มขึ้นมา 12.0% และ
ตลอด 52 ปีของการดำเนินงานของ BRK สามารถทำผลตอบแทนให้กับผู้ถือหุ้นได้ 1,972,595% หรือ 19,725 เท่าตัว
นั่นหมายถึง เมื่อ 52 ปีที่แล้ว ใครถ้าเริ่มลงทุนในหุ้น BRK ด้วยเงิน 10,000 บาท วันนี้เขาจะมีทรัพย์สิน (หุ้น BRK) เป็นมูลค่า 197 ล้านบาท ซึ่งคิดเป็นอัตราผลตอบแทนทบต้นต่อปีที่ 20.8%
แต่ความสนุกของรายงานประจำปี BRK ไม่ได้จบแค่นั้น คุณปู่ Buffett ยังกำหนดกฎเหล็ก 6+2 ข้อของ BRK ในการเข้าซื้อกิจการไว้ด้วย โดยบอกว่าถ้าใครจะเอาดีลมาเสนอให้ BRK เข้าไปซื้อธุรกิจ ต้องเช็คให้ครบซะก่อน ไม่งั้นเสียเวลาเปล่า ซึ่งกฎเหล่านั้นก็คือ
- ต้องเป็นดีลใหญ่เท่านั้น โดยต้องมีกำไรก่อนภาษีไม่น้อยกว่า 75 ล้านเหรียญหรือ 2,625 ล้านบาทต่อปี [สมมติให้ P/E 20 เท่า ธุรกิจนี้ต้องมีมูลค่าไม่น้อยกว่า 5 หมื่นล้านบาท]
- กำไรต้องสม่ำเสมอ โดยไม่สนการคาดการณ์ในอนาคต และไม่สนหุ้นเน่าที่มีลุ้นการฟื้นตัว
- กำไรต่อส่วนของเจ้าของ (Return on Equity) ต้องดีงาม และต้องมีหนี้น้อยหรือไม่มีเลย
- ต้องมีทีมบริหารที่ดี โดย BRK จะไม่เข้าไปช่วยบริหาร
- ธุรกิจต้องเข้าใจง่าย ถ้ามีการใช้เทคโนโลยีมากเกินไป BRK จะไม่เสียเวลาทำความเข้าใจ
- ให้ตั้งราคาเสนอขายมาเลย อย่ามาเสียเวลาถามผ่าน ๆ ว่าสนใจบริษัทนี้ไหม
และมีอีก2 ข้อที่แถมมาด้วยคือ
- ยิ่งเป็นบริษัทที่ใหญ่แค่ไหน BRK จะยิ่งสนใจ โดยเฉพาะในช่วง 5 พัน ถึง 2 หมื่นล้านเหรียญ (1.3 แสนล้านบาท ถึง 7 แสนล้านบาท)
- ไม่สนใจการเข้าไปซื้อหุ้นในตลาด จะทำดีลซื้อกันตรง ๆ กับผู้ถือหุ้นใหญ่เท่านั้น
เชื่อว่ากฎเหล็กทั้ง 6+2 ข้อนี้ หลายข้อจะหยิบมาประยุกต์ใช้กับการเลือกหุ้นของนักลงทุนรายย่อยได้เช่นกัน โดยเฉพาะข้อ 2 3 4 และ 5 🙂
Categories: Investment Articles