เวลาเราทำแบบประเมินความเสี่ยงเพื่อเปิดบัญชีลงทุน .. เค้าจะถาม 2 อย่าง
อย่างแรกคือ ความสามารถในการรับความเสี่ยง (Ability to take risk) .. ก็จะดูจากอายุ ระดับการศึกษา ประสบการณ์ลงทุน หรือจำนวนเงินลงทุนที่มีอยู่แล้ว คือจะถาม “ข้อเท็จจริง”
อย่างที่สองคือ ความพอใจในการรับความเสี่ยง (Willingness to take risk) .. ก็จะเน้นถามว่าเรารับขาดทุนได้เท่าไร รับความผันผวนได้แค่ไหน คือจะถาม “ความรู้สึก”
ทีนี้คนส่วนใหญ่ก็อยากจะมีฐานะดีขึ้นอยู่แล้ว มีเป้าหมายทางการเงินว่าอยากมีเงินเท่านั้นเท่านี้ หรือมี passive income ในระดับกี่บาทต่อเดือน
แล้วเวลาเราทำประเมินความเสี่ยง ผลที่ออกมา มันก็จะมีความเป็นไปได้ 4 แบบใหญ่ ๆ คือ
1. High Ability และ High Willingness แบบนี้จะลงทุนแบบเน้นเติบโต ซึ่งมีความเสี่ยงสูงได้
2. Low Ability แต่ High Willingness แบบนี้จะรับความเสี่ยงได้กลาง ๆ
3. Low Ability และ Low Willingness แบบนี้จะรับความเสี่ยงได้ต่ำ
และ 4. High Ability แต่ Low Willingness แบบนี้ก็จะรับความเสี่ยงได้กลาง ๆ เช่นกัน
แบบที่ 1 2 3 นั้นไม่ค่อยมีปัญหา เพราะระดับความเสี่ยงจะค่อนข้างอิงตาม Ability .. ที่มีปัญหาคือ แบบที่ 4
ที่ว่าแบบ 4 มีปัญหา ก็เพราะเป็นจะเป็นคนที่ “จริง ๆ แล้วรับความเสี่ยงได้” เช่น อายุยังไม่มาก มีเงินอยู่แล้ว ระดับการศึกษาสูง มีประสบการณ์ลงทุน แต่ “รู้สึก” ไม่อยากรับความเสี่ยง
ซึ่งคนที่รับความเสี่ยงได้สูงแต่ไม่อยากรับความเสี่ยง ก็จะแบ่งเป็น 2 แบบอีก
แบบแรกคือ ตั้งเป้าหมายต่ำ .. ซึ่งแบบนี้ต้องขอบอกว่า “น่าเสียดาย” เพราะจริง ๆ มีศักยภาพจะสร้างฐานะให้เติบโตได้สูงมากในระยะยาว เนื่องจากโดยข้อเท็จจริงแล้วรับความเสี่ยงได้สูง แต่กลับเลือกที่จะชิว แล้วพอเวลาผ่านไป ก็จะเสียดายที่ได้ผลตอบแทนการลงทุนในระดับต่ำ
ส่วนอีกแบบคือ ตั้งเป้าหมายสูง .. แบบนี้ขอเรียกว่า “จะเสียหาย” เพราะมีเป้าหมายสูง จึงต้องเน้นการลงทุนที่เติบโต นั่นหมายถึงต้องรับความเสี่ยงสูงขึ้น แต่พอลงทุนจริง ๆ กลับไม่รับความเสี่ยงอย่างเพียงพอ ทำให้ชีวิตไม่สามารถบรรลุเป้าหมายทางการเงินได้เลย เช่น คำนวณมาแล้วว่าเป้าหมายที่ต้องการ ต้องหวังผลตอบแทนระดับ 10% ต่อปี แต่เอาจริง ๆ ลงทุนกองทุนตลาดเงินที่ได้ผลตอบแทน 1% ต่อปี อย่างนี้ก็คงไปไม่ถึงเป้าแน่นอน เรียกว่าชีวิตพังกันเลยทีเดียว ถ้าเป้าหมายนั้นจำเป็นต่อการดำรงชีวิตในยามสูงอายุ
ที่เขียนมาทั้งหมดนี้ สรุปได้สั้น ๆ ว่า จะลงทุนอย่างไรนั้น อาจจะดูตาม Ability อย่างเดียวก็พอ ตัดเรื่องใจออกไป เพื่อไม่ต้องมาเสียดายหรือเสียหายในภายหลัง นั่นคือก็ ถ้าคุณมี Ability ที่จะรับความเสี่ยงได้ ก็ควรรับความเสี่ยง .. แม้มันจะดูสวนกระแสหลัก แต่เมื่อพิจารณาด้วยเหตุผลแล้ว เชื่อว่าน่าจะดีต่อชีวิตมากกว่า ในระยะยาว 🙂
Categories: Investment Articles