Thoughts & Quotes

7 ข้อที่ขอฝากให้คนที่อยากประสบความสำเร็จ

1. ลงมือทำให้สอดคล้องกับเป้าหมาย .. ถ้าอยากลงทุนได้กำไรเป็นเท่าตัวในเวลาไม่กี่ปี ต้องเปิดรับความเสี่ยง (อย่างมีปัญญา) ซึ่งจะมาพร้อมโอกาสที่เป็นไปได้ .. เช่น ฝากออมทรัพย์หรือซื้อกองทุนตราสารหนี้ แต่ตั้งเป้ามีเงินเพิ่มเป็นเท่า ๆ ตัวในเวลาไม่กี่ปี แบบนี้ไม่สามารถพาไปถึงเป้าหมายได้

2. ถ้าไม่ได้ตั้งเป้าแค่มีอันจะกิน แต่อยากรวยแบบเปลี่ยนชีวิต ให้มุ่งเป็น Creator ไม่ใช่จบแค่ Saver (เก็บออมเงิน) หรือInvestor (ลงทุนในกิจการคนอื่นแบบเป็นผู้ถือหุ้นรายย่อย) .. Creator หมายถึงผู้สร้างธุรกิจของตัวเองให้เติบโต พอโตแล้วจะขายต่อหรือจะเอาเข้าตลาดก็ว่าไป (ลองนึกถึง Snail White, After You, Amazon, Microsoft, Facebook และบริษัทจดทะเบียนอื่น ๆ อีกมากมาย) ส่วน Investor คือคนที่เอาเงินไปช่วยให้ Creator มีฝันที่เป็นจริง .. แต่ถ้าเป็น Creator ที่ประสบความสำเร็จแล้ว จะแบ่งเงินมาสวมหมวกเป็น Investor บ้างก็ไม่ผิด หรือเป็น Saver ไปด้วยก็ยังได้ แค่อย่าข้ามขั้น (ถ้ามีเป้าจะรวยแบบเปลี่ยนชีวิต) .. และการจะเป็น Creator ที่ประสบความสำเร็จ จะลุยไปคนเดียวนั้นไม่พอ ตายกลางทางแน่นอน ต้องมีเพื่อนและทีมที่ดี

3. ทุกอย่างขับเคลื่อนด้วยคน .. ทิศทางของบริษัท เกิดจากวิสัยทัศน์ของคน กำไรของบริษัท เกิดจากฝีมือของคน ระบบงานเจ๋ง ๆ เกิดจากคนคิดขึ้นมา .. ถ้าอยากรู้ว่าบริษัทไหนหรือโครงการไหน มีอนาคต หากทำได้ ให้คุยกับเจ้าของ หรือผู้บริหาร ไม่ใช่เน้นดูตัวเลขในงบการเงินหรือแผนธุรกิจอย่างเดียว .. และต่อให้ได้ฟังมาแล้ว ก็ต้องคิดต่อด้วย ไม่ใช่เชื่อเลยทั้งหมด

4. แนวคิดที่ช่วยให้เราประสบความสำเร็จได้จริง ฟังจบแล้วเห็นภาพว่าต้องทำอะไรบ้าง 1-2-3 มักจะมาจากคนที่ประสบความสำเร็จแล้วจริง ๆ คือ ได้ลงมือทำสิ่งนั้นมาแล้วจริง .. และแนวคิดพวกนี้ 99% จะได้จากการพูดคุยส่วนตัว แบบเพื่อนเล่าให้ฟัง ไม่ใช่จากงานสัมมนา .. และถ้าอยากมีเพื่อนเก่ง ๆ ที่จะยอมเล่าสิ่งดี ๆ ให้ฟัง เราเองต้องเป็นคนที่คู่ควรต่อการถูกเล่าให้ฟังเช่นกัน

5. ทำงานให้คิดถึงตัวงานก่อน (และถ้าทำ feasibility study และ financial model ก่อนลงมือด้วยก็จะเจ๋งมาก) ถ้างานได้ผลดี รายได้และกำไร จะตามมาเอง .. หลายคนเน้นมโนล่วงหน้า ว่าถ้ามีเงินเท่านั้นเท่านี้ แล้วจะเอาไปทำอะไรบ้าง แต่ไม่ลงมือทำงานให้เกิดผลสำเร็จอย่างสูง .. เมื่อไม่สร้างเหตุ แต่นอนรอผล ก็ต้องรอไปเรื่อย ๆ .. หรือบางคนคิดได้ก็ลุยเลย ไม่วางแผน แบบนี้อาจจะได้ทำ แต่โอกาสสำเร็จก็น้อยลง .. ซึ่งถ้าอิงตามแนวทางท่านพุทธทาส ก็อาจจะเรียกว่า “ทำงานด้วยจิตว่าง”

6. ถ้ายังหายใจอยู่ ก็อย่าหยุดทำงาน แต่ให้เลือกงานที่รัก และมีประโยชน์ .. การอยู่เฉย ๆ หรือใช้เงินไปเรื่อย ๆ ต่อให้มีเงินมากพอแล้วก็ตาม คนที่มีสติและรู้ว่าตัวเองมีฝีมือ ถึงจุดหนึ่งก็จะรู้สึกเบื่อ รู้สึกไร้ค่า แล้วก็ต้องลุกมาทำอะไรใหม่ ๆ ใหญ่ ๆ ต่อไปอยู่ดี .. ดังนั้น การตั้งเป้าเกษียณไว ในทางปฏิบัติจึงมีโอกาสเกิดน้อย เพราะคนที่ตั้งเป้า แต่ไม่ลงมือทำจริงจัง ก็ยังต้องทำงานไปเรื่อย ๆ .. ส่วนคนที่ไม่ตั้งเป้าแบบนี้ คือรักที่จะทำงานไปเรื่อย ๆ เท่าที่ยังมีแรงทำ ก็จะไม่ได้คิดเรื่องเกษียณ ไม่ได้คิดจะหยุดทำงาน แม้ความจริงจะมีเงินเกินพอแล้วก็ตาม คือไม่หยุด เพระไม่ได้ตั้งเป้าเป็นเงิน

7. เมื่อทำเพื่อตัวเองจนมีพอแล้ว ก็ทำเพื่อคนอื่น ทำเพื่อส่วนรวมด้วย .. อันนี้ไม่ใช่คำสวย ๆ ที่เลือกมาพูดจบ แต่ผู้ใหญ่ที่เคารพผู้ประสบความสำเร็จอย่างสูงหลายท่าน “คิดและทำ” ตรงกันเมื่อเริ่มเข้าวัยอาวุโส .. เพราะเงินไม่ได้ซื้อได้ทุกอย่าง โดยเฉพาะการ “ทำให้” ที่ไม่ใช่ “ทำเอา” และไม่ใช่เป็นทำนองยิ่งให้ก็ยิ่งได้ เพราะเมื่อคนเราผ่านชีวิตมาถึงจุดหนึ่งแล้ว บรรลุคุณธรรม (ไม่ใช่บรรลุธรรมนะครับ) มาถึงระดับหนึ่งแล็ว ก็จะให้เพราะอยากให้ ให้เพราะรู้ว่าเมื่อให้แล้วจะเกิดเป็นประโยชน์ ไม่ได้ให้เพราะอยากได้อะไรตอบแทนอีกต่อไป .. ซึ่งผมจะเรียกการให้แบบนี้ว่า “การให้ด้วยจิตว่าง”

อ่านครบ 7 ข้อแล้ว ใครที่นำไปใช้ ก็ขอให้ประสบความสำเร็จตามใจหวังครับ (แต่จริง ๆ ถ้าหยิบไปทำได้ ไม่ต้องอวยพรก็สำเร็จได้เองอยู่แล้วครับ :D)

และทั้งหมดนี้คือเท่าที่เจอมา .. และทำมา

SJ@TIF >> About TIF

Categories: Thoughts & Quotes