Financial Markets Update

สรุปภาวะการลงทุนโลก วันพุธที่ 16 พ.ค. 61 โดย TIF

  • แนวโน้ม SET Index — ร่วงติดกัน 2 วัน และร่วงเยอะด้วย แนวโน้มระยะสั้นจึงยังเป็นขาลง ส่วนแนวโน้มระยะกลางยังเป็นขาลงมาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์  โดยที่แนวโน้มขาลง/ขาขึ้น ให้ดูที่ทิศทางลูกศร MACD ในกราฟ โดยแนวโน้มล่าสุด ให้ดูตามทิศทางหัวลูกศรอันขวาสุด (อันล่าสุด)
  • การซื้อขายสุทธิในตลาดหุ้นของนักลงทุนกลุ่มต่าง ๆ — แม้ช่วง 2-3 วันนี้ต่างชาติจะเริ่มซื้อบ้าง แต่ในภาพรวมก็ขายมาตั้งแต่ต้นปี โดยสถาบันและรายย่อยช่วยกันซื้อ
  • แนวโน้มค่าเงินบาท — กลับอ่อนค่าค่อนข้างเร็ว ไปอยู่ที่ระดับ 32.09 THB/USD แต่แนวโน้มก็ยังเป็นฝั่งอ่อนค่า
  • แนวโน้มราคาทองคำ — ร่วงแรง หล่นไปต่ำกว่าระดับ $1,300 เป็นครั้งแรกในรอบปี 2561
  • แนวโน้มราคาน้ำมันดิบ — บวกต่อเนื่อง 6 สัปดาห์ แนวโน้มยังเป็นขาขึ้นชัดเจน

(กราฟจากบริการเอสเพนโดยไทยเควสต์)

  • Snapshot ราคาตราสารหนี้ทั่วโลก (ข้อมูลจาก cnbc.com) — Bond Yield ส่วนใหญ่ขยับลบ ราคาตราสารเพิ่มขึ้น  .. ซึ่งราคา vs ผลตอบแทน ของตราสารหนี้ จะแปรผกผันกัน (อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับกลไกอัตราดอกเบี้ยและราคาตราสารหนี้ได้ ที่นี่)

  • Snapshot ตลาดหุ้นที่สำคัญทั่วโลก (ข้อมูลจาก cnbc.com) — สหรัฐฯ และยุโรปบวก ส่วนเอเซียซึ่งปิดตลาดไปก่อน ลบเล็กน้อย

ชวนทำความเข้าใจ

  • สัญญาณขาขึ้นขาลงที่อยู่ในกราฟ (ตัวหนังสือ MACD พร้อมหัวลูกศร) มาจากเครื่องมือ MACD ซึ่งสัญญาณนั้นเป็น “ผล” จาก “เหตุปัจจัยต่าง ๆ” เท่านั้น ไม่ว่าจะเป็น การเมืองไทย การเมืองโลก เศรษฐกิจไทย เศรษฐกิจโลก ภาวะธุรกิจตลอดจนข่าวของบริษัทเอง ฯลฯ … เราจึงดูกราฟเพื่อให้รู้ว่าปัจจัยต้นเหตุต่าง ๆ การคาดการณ์ต่าง ๆ ในช่วงนี้ ส่งผลต่อแนวโน้มราคาในระยะนี้ต่อไปถึงอนาคต “ใกล้ ๆ” อย่างไรบ้าง … แต่เราไม่สามารถเอากราฟซึ่งเป็น “ผล” กลับไปพยากรณ์ “เหตุ” ในอนาคตไกล ๆ ได้ ไม่ว่าจะใช้เครื่องมืออะไร หรือแนวเทคนิกแบบไหนก็ตาม
  • ข้อมูลตลาดหุ้นจะใช้ SET Index เป็นตัวแทน เพื่อให้นำเสนอข้อมูลภาพรวมได้จริงในทางปฏิบัติ ภาวะของหุ้นรายตัวอื่น ๆ อาจต่างไปจากภาวะของตลาดโดยรวมก็ได้ นักลงทุนจึงควรพิจารณาสถานะของหุ้นรายตัวที่นักลงทุนสนใจ ควบคู่กันไป