• แนวโน้ม SET Index — แม้วันนี้จะเด้งแรง แต่ก่อนหน้านี้ก็รู้ ๆ กันอยู่ว่าหล่นแรงมา 4 วัน แนวโน้มระยะสั้นยังเป็นขาลง ส่วนแนวโน้มระยะกลางยังคงเป็นขาลงมาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์  โดยที่แนวโน้มขาลง/ขาขึ้น ให้ดูที่ทิศทางลูกศร MACD ในกราฟ โดยแนวโน้มล่าสุด ให้ดูตามทิศทางหัวลูกศรอันขวาสุด (อันล่าสุด)
• การซื้อขายสุทธิในตลาดหุ้นของนักลงทุนกลุ่มต่าง ๆ — ต่างชาติยังคงขายมาตลอดแต่ต้นปี โดยสถาบันและรายย่อยช่วยกันซื้อ
• แนวโน้มค่าเงินบาท — อ่อนค่าต่อเนื่องเมื่อเทียบกับ USD ล่าสุดมาอยู่ที่ 32.83 THB/USD โดยแนวโน้มระยะกลางก็เป็นฝั่งอ่อนค่ามาตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคม
• แนวโน้มราคาทองคำ — ยังเป็นขาลง
• แนวโน้มราคาน้ำมันดิบ — เป็นขาลงเช่นกัน แต่เริ่มมีการฟื้นตัว

(กราฟจากบริการเอสเพนโดยไทยเควสต์)

• Snapshot ราคาตราสารหนี้ทั่วโลก (ข้อมูลจาก cnbc.com) — Yield ขยับขึ้น และหากมองภาพรวมตั้งแต่ต้นปี ก็เป็นช่วงที่ Yield มีการ rally ขึ้นไป ทำให้ราคาตราสารลดลง .. ซึ่งราคา vs ผลตอบแทน ของตราสารหนี้ จะแปรผกผันกัน (อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับกลไกอัตราดอกเบี้ยและราคาตราสารหนี้ได้ ที่นี่)

• • Snapshot ตลาดหุ้นที่สำคัญทั่วโลก (ข้อมูลจาก cnbc.com) — บวกเป็นส่วนใหญ่ ฟื้นตัวจาก 2-3 วันก่อนที่ร่วงแรง
  • 

ชวนทำความเข้าใจ

• สัญญาณขาขึ้นขาลงที่อยู่ในกราฟ (ตัวหนังสือ MACD พร้อมหัวลูกศร) มาจากเครื่องมือ MACD ซึ่งสัญญาณนั้นเป็น “ผล” จาก “เหตุปัจจัยต่าง ๆ” เท่านั้น ไม่ว่าจะเป็น การเมืองไทย การเมืองโลก เศรษฐกิจไทย เศรษฐกิจโลก ภาวะธุรกิจตลอดจนข่าวของบริษัทเอง ฯลฯ … เราจึงดูกราฟเพื่อให้รู้ว่าปัจจัยต้นเหตุต่าง ๆ การคาดการณ์ต่าง ๆ ในช่วงนี้ ส่งผลต่อแนวโน้มราคาในระยะนี้ต่อไปถึงอนาคต “ใกล้ ๆ” อย่างไรบ้าง … แต่เราไม่สามารถเอากราฟซึ่งเป็น “ผล” กลับไปพยากรณ์ “เหตุ” ในอนาคตไกล ๆ ได้ ไม่ว่าจะใช้เครื่องมืออะไร หรือแนวเทคนิกแบบไหนก็ตาม
• ข้อมูลตลาดหุ้นจะใช้ SET Index เป็นตัวแทน เพื่อให้นำเสนอข้อมูลภาพรวมได้จริงในทางปฏิบัติ ภาวะของหุ้นรายตัวอื่น ๆ อาจต่างไปจากภาวะของตลาดโดยรวมก็ได้ นักลงทุนจึงควรพิจารณาสถานะของหุ้นรายตัวที่นักลงทุนสนใจ ควบคู่กันไป