• แนวโน้ม SET Index — แม้เมื่อวานจะลบ แต่เมื่อดูทั้งสัปดาห์ก็เป็นบวก นับเป็นการบวกต่อเนื่อง 5 สัปดาห์ ขึ้นมา 112 จุดในรวดเดียว แนวโน้มทั้งระยะสั้นและระยะกลางจึงเป็นขาขึ้นชัดเจน .. โดยที่แนวโน้มขาลง/ขาขึ้น ให้ดูที่ทิศทางลูกศร MACD ในกราฟ โดยแนวโน้มล่าสุด ให้ดูตามทิศทางหัวลูกศรอันขวาสุด (อันล่าสุด)
• การซื้อขายสุทธิในตลาดหุ้นของนักลงทุนกลุ่มต่าง ๆ — ช่วงนี้นักลงทุนต่างชาติกลับเป็นฝั่งซื้อสุทธิต่อเนื่อง แล้วพอต่างชาติซื้อ หุ้นก็ขึ้น แต่รายย่อยขาย
• แนวโน้มค่าเงินบาท — อ่อนค่ากลับไปที่ระดับ 33.32 THB/USD และแนวโน้มระยะกลางยังเป็นฝั่งอ่อนค่ามาตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคม
• แนวโน้มราคาทองคำ — ยังเป็นขาลงแรง ในช่วง 5 ปีล่าสุด ขาดทุนเฉลี่ยปีละ 2.5% (อ้างอิง: https://thailandinvestmentforum.com/2018/07/21/lti_july61/)
• แนวโน้มราคาน้ำมันดิบ —  ทรง ๆ ตัว ภายใต้แนวโน้มที่ยังเป็นขาลง

(กราฟจากบริการ Aspen by ThaiQuest)

• Snapshot ราคาตราสารหนี้ทั่วโลก (ข้อมูลจาก cnbc.com) — Yield ระยะสั้นขยับขึ้น ระยะยาวขยับลง แต่ก็ในระดับที่ไม่มาก ราคาตราสารจึงไม่น่าขยับรุนแรง .. ซึ่งราคา vs ผลตอบแทน ของตราสารหนี้ จะแปรผกผันกัน (อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับกลไกอัตราดอกเบี้ยและราคาตราสารหนี้ได้ ที่นี่)

• Snapshot ตลาดหุ้นที่สำคัญทั่วโลก (ข้อมูลจาก cnbc.com) — บวกลบผสมกัน โดย DJIA ยังอยู่เหนือระดับ 25,000 ได้อยู่

ชวนทำความเข้าใจ

• สัญญาณขาขึ้นขาลงที่อยู่ในกราฟ (ตัวหนังสือ MACD พร้อมหัวลูกศร) มาจากเครื่องมือ MACD ซึ่งสัญญาณนั้นเป็น “ผล” จาก “เหตุปัจจัยต่าง ๆ” เท่านั้น ไม่ว่าจะเป็น การเมืองไทย การเมืองโลก เศรษฐกิจไทย เศรษฐกิจโลก ภาวะธุรกิจตลอดจนข่าวของบริษัทเอง ฯลฯ … เราจึงดูกราฟเพื่อให้รู้ว่าปัจจัยต้นเหตุต่าง ๆ การคาดการณ์ต่าง ๆ ในช่วงนี้ ส่งผลต่อแนวโน้มราคาในระยะนี้ต่อไปถึงอนาคต “ใกล้ ๆ” อย่างไรบ้าง … แต่เราไม่สามารถเอากราฟซึ่งเป็น “ผล” กลับไปพยากรณ์ “เหตุ” ในอนาคตไกล ๆ ได้ ไม่ว่าจะใช้เครื่องมืออะไร หรือแนวเทคนิกแบบไหนก็ตาม
• ข้อมูลตลาดหุ้นจะใช้ SET Index เป็นตัวแทน เพื่อให้นำเสนอข้อมูลภาพรวมได้จริงในทางปฏิบัติ ภาวะของหุ้นรายตัวอื่น ๆ อาจต่างไปจากภาวะของตลาดโดยรวมก็ได้ นักลงทุนจึงควรพิจารณาสถานะของหุ้นรายตัวที่นักลงทุนสนใจ ควบคู่กันไป

Advertisement