- แนวโน้ม SET Index — วันนี้ลบ 19 จุด และก่อนหน้าก็ปิดลบติดกันหลายวัน แนวโน้มระยะสั้นจึงกลับเป็นขาลงซะแล้ว ส่วนระยะกลางเป็นขาขึ้นได้อยู่ เพราะก่อนหน้าบวกมาดี แต่ก็ต้องระมัดระวังมากขึ้น .. โดยที่แนวโน้มขาลง/ขาขึ้น ให้ดูที่ทิศทางลูกศร MACD ในกราฟ โดยแนวโน้มล่าสุด ให้ดูตามทิศทางหัวลูกศรอันขวาสุด (อันล่าสุด)
- การซื้อขายสุทธิในตลาดหุ้นของนักลงทุนกลุ่มต่าง ๆ — ซื้อสุทธิได้ไม่นาน ก็กลับมาขายอีกครั้ง แต่ก็ยังไม่ได้ขายแรงเหมือนช่วงไตรมาส 2
- แนวโน้มค่าเงินบาท — ทรงตัวที่ระดับ 33.34 THB/USD และแนวโน้มระยะกลางยังเป็นฝั่งอ่อนค่ามาตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคม
- แนวโน้มราคาทองคำ — ยังเป็นขาลงแรง และต่อเนื่องแทบจะทุกสัปดาห์ตั้งแต่ต้นปี ในช่วง 5 ปีล่าสุด ขาดทุนเฉลี่ยปีละ 2.5% (อ้างอิง: https://thailandinvestmentforum.com/2018/07/21/lti_july61)
- แนวโน้มราคาน้ำมันดิบ — ยังเป็นขาลงเช่นกัน จะหลุด $70 รอมร่อ แล้วพอน้ำมันดิบลง หุ้นพลังานซึ่งมีผลมากต่อตลาด ก็จะเหนื่อยตามไปด้วย
(กราฟจากบริการ Aspen by ThaiQuest)
- Snapshot ตลาดหุ้นที่สำคัญทั่วโลก (ข้อมูลจาก cnbc.com) — ลบทั่วหน้า
- Snapshot ตลาดตราสารหนี้ทั่วโลก (ข้อมูลจาก cnbc.com) — Yield ลดลง ราคาตราสารเพิ่มขึ้น .. ซึ่งราคา vs ผลตอบแทน ของตราสารหนี้ จะแปรผกผันกัน (อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับกลไกอัตราดอกเบี้ยและราคาตราสารหนี้ได้ ที่นี่)
ชวนทำความเข้าใจ
- สัญญาณขาขึ้นขาลงที่อยู่ในกราฟ (ตัวหนังสือ MACD พร้อมหัวลูกศร) มาจากเครื่องมือ MACD ซึ่งสัญญาณนั้นเป็น “ผล” จาก “เหตุปัจจัยต่าง ๆ” เท่านั้น ไม่ว่าจะเป็น การเมืองไทย การเมืองโลก เศรษฐกิจไทย เศรษฐกิจโลก ภาวะธุรกิจตลอดจนข่าวของบริษัทเอง ฯลฯ … เราจึงดูกราฟเพื่อให้รู้ว่าปัจจัยต้นเหตุต่าง ๆ การคาดการณ์ต่าง ๆ ในช่วงนี้ ส่งผลต่อแนวโน้มราคาในระยะนี้ต่อไปถึงอนาคต “ใกล้ ๆ” อย่างไรบ้าง … แต่เราไม่สามารถเอากราฟซึ่งเป็น “ผล” กลับไปพยากรณ์ “เหตุ” ในอนาคตไกล ๆ ได้ ไม่ว่าจะใช้เครื่องมืออะไร หรือแนวเทคนิกแบบไหนก็ตาม
- ข้อมูลตลาดหุ้นจะใช้ SET Index เป็นตัวแทน เพื่อให้นำเสนอข้อมูลภาพรวมได้จริงในทางปฏิบัติ ภาวะของหุ้นรายตัวอื่น ๆ อาจต่างไปจากภาวะของตลาดโดยรวมก็ได้ นักลงทุนจึงควรพิจารณาสถานะของหุ้นรายตัวที่นักลงทุนสนใจ ควบคู่กันไป
Advertisement
Categories: Financial Markets Update