• แนวโน้ม SET Index — ยังลบต่อเนื่อง ทั้งแนวโน้มระยะสั้น (กรอบเวลา Daily – ซึ่งไม่ได้แปลว่าดู 1 วันแล้วจบ) และ ระยะกลาง (กรอบเวลา Weekly – ซึ่งไม่ได้แปลว่าดู 1 Week แล้วจบ) ยังเป็นขาลงทั้งหมด .. โดยที่แนวโน้มขาลง/ขาขึ้น ให้ดูที่ทิศทางลูกศร MACD ในกราฟ โดยแนวโน้มล่าสุด ให้ดูตามทิศทางหัวลูกศรอันขวาสุด (อันล่าสุด)
• แนวโน้มค่าเงินบาท — อ่อนค่าอย่างเร็ว ไปยู่ที่ $32.87 THB/USD ทำให้แนวโน้มระยะกลางพลิกเป็นด้านอ่อนค่า อย่างไม่เป็นทางการ (รอดู 2-3 วัน)
• การซื้อขายสุทธิในตลาดหุ้นของนักลงทุนกลุ่มต่าง ๆ — ต่างชาติยังถล่มขายสุทธิหนักมือติดต่อกัน ดัชนีก็ยังถูกกดดันต่อไป
• แนวโน้มราคาทองคำ — แนวโน้มระยะกลางยังเป็นขาขึ้น หลังทะลุผ่านแนว $1,200 ขึ้นมาได้
• แนวโน้มราคาน้ำมันดิบ —  ดิ่งลงมาจาก $85 เหลือ $79.5 แนวโน้มระยะกลางกลับเป็นขาลง อย่างไม่เป็นทางการเช่นกัน (รอดู 2-3 วัน)

(กราฟจากบริการ Aspen by ThaiQuest)

• Snapshot ตลาดหุ้นที่สำคัญทั่วโลก (ข้อมูลจาก cnbc.com) — ส่วนใหญ่ลบ

• Snapshot ตลาดตราสารหนี้ทั่วโลก (ข้อมูลจาก cnbc.com) — ผลตอบแทนลดลง ราคาขยับขึ้น ส่วนหนึ่งอาจเป็นแรงซื้อที่หนีมาจากตลาดหุ้น .. ซึ่งราคา vs ผลตอบแทน ของตราสารหนี้ จะแปรผกผันกัน (อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับกลไกอัตราดอกเบี้ยและราคาตราสารหนี้ได้ ที่นี่)

ชวนทำความเข้าใจ

• สัญญาณขาขึ้นขาลงที่อยู่ในกราฟ (ตัวหนังสือ MACD พร้อมหัวลูกศร) มาจากเครื่องมือ MACD ซึ่งสัญญาณนั้นเป็น “ผล” จาก “เหตุปัจจัยต่าง ๆ” เท่านั้น ไม่ว่าจะเป็น การเมืองไทย การเมืองโลก เศรษฐกิจไทย เศรษฐกิจโลก ภาวะธุรกิจตลอดจนข่าวของบริษัทเอง ฯลฯ … เราจึงดูกราฟเพื่อให้รู้ว่าปัจจัยต้นเหตุต่าง ๆ การคาดการณ์ต่าง ๆ ในช่วงนี้ ส่งผลต่อแนวโน้มราคาในระยะนี้ต่อไปถึงอนาคต “ใกล้ ๆ” อย่างไรบ้าง … แต่เราไม่สามารถเอากราฟซึ่งเป็น “ผล” กลับไปพยากรณ์ “เหตุ” ในอนาคตไกล ๆ ได้ ไม่ว่าจะใช้เครื่องมืออะไร หรือแนวเทคนิกแบบไหนก็ตาม
• ข้อมูลตลาดหุ้นจะใช้ SET Index เป็นตัวแทน เพื่อให้นำเสนอข้อมูลภาพรวมได้จริงในทางปฏิบัติ ภาวะของหุ้นรายตัวอื่น ๆ อาจต่างไปจากภาวะของตลาดโดยรวมก็ได้ นักลงทุนจึงควรพิจารณาสถานะของหุ้นรายตัวที่นักลงทุนสนใจ ควบคู่กันไป

Advertisement