• แนวโน้ม SET Index — เป็นช่วงที่ตลาดผันผวน ลบ ๆ บวก ๆ แต่ช่วงล่าสุดก็บวกได้ดีหลายวันติดกัน (ยกเว้นเมื่อวาน) แนวโน้มระยะสั้นกลับเป็นขาขึ้น ส่วนแนวโน้มระยะกลางยังเป็นขาลง .. โดยที่แนวโน้มขาลง/ขาขึ้น ให้ดูที่ทิศทางลูกศร MACD ในกราฟ โดยแนวโน้มล่าสุด ให้ดูตามทิศทางหัวลูกศรอันขวาสุด (อันล่าสุด)
• แนวโน้มค่าเงินบาท –แข็งค่าไปที่ $32.8x THB/USD และแนวโน้มระยะกลางก็ยังคงเป็นด้านอ่อนค่า
• การซื้อขายสุทธิในตลาดหุ้นของนักลงทุนกลุ่มต่าง ๆ — ในภาพรวม ต่างชาติยังคงขายสุทธิ และทำติดต่อกันมาตั้งแต่ต้นปี
• แนวโน้มราคาทองคำ — ทรงตัวที่ระดับ $1,21x แต่แนวโน้มระยะกลางก็พอจะยืนเป็นขาขึ้นได้อยู่
• แนวโน้มราคาน้ำมันดิบ —  แม้สัปดาห์นี้จะยืนได้ แต่ภาพรวมก็ยังอยู่ในช่วงที่ดิ่งแรง ล่าสุดยังไม่โงหัวไม่พ้นระดับ $60 แนวโน้มระยะกลางยังเป็นขาลงแรง ซึ่งน่าจะช่วยให้เงินเฟ้อขยับตัวขึ้นช้าลงกว่าแนวโน้มช่วงก่อนหน้า

(กราฟจากบริการ Aspen by ThaiQuest)

• Snapshot ตลาดหุ้นที่สำคัญทั่วโลก (ข้อมูลจาก cnbc.com) — บวกลบเล็กน้อยทั่วโลก

• Snapshot ตลาดตราสารหนี้ทั่วโลก (ข้อมูลจาก cnbc.com) — อัตราผลตอบแทนขยับลงเล็กน้อย เท่ากับว่าราคาขยับขึ้น .. ซึ่งราคา vs ผลตอบแทน ของตราสารหนี้ จะแปรผกผันกัน (อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับกลไกอัตราดอกเบี้ยและราคาตราสารหนี้ได้ ที่นี่)

ชวนทำความเข้าใจ

• สัญญาณขาขึ้นขาลงที่อยู่ในกราฟ (ตัวหนังสือ MACD พร้อมหัวลูกศร) มาจากเครื่องมือ MACD ซึ่งสัญญาณนั้นเป็น “ผล” จาก “เหตุปัจจัยต่าง ๆ” เท่านั้น ไม่ว่าจะเป็น การเมืองไทย การเมืองโลก เศรษฐกิจไทย เศรษฐกิจโลก ภาวะธุรกิจตลอดจนข่าวของบริษัทเอง ฯลฯ … เราจึงดูกราฟเพื่อให้รู้ว่าปัจจัยต้นเหตุต่าง ๆ การคาดการณ์ต่าง ๆ ในช่วงนี้ ส่งผลต่อแนวโน้มราคาในระยะนี้ต่อไปถึงอนาคต “ใกล้ ๆ” อย่างไรบ้าง … แต่เราไม่สามารถเอากราฟซึ่งเป็น “ผล” กลับไปพยากรณ์ “เหตุ” ในอนาคตไกล ๆ ได้ ไม่ว่าจะใช้เครื่องมืออะไร หรือแนวเทคนิกแบบไหนก็ตาม
• ข้อมูลตลาดหุ้นจะใช้ SET Index เป็นตัวแทน เพื่อให้นำเสนอข้อมูลภาพรวมได้จริงในทางปฏิบัติ ภาวะของหุ้นรายตัวอื่น ๆ อาจต่างไปจากภาวะของตลาดโดยรวมก็ได้ นักลงทุนจึงควรพิจารณาสถานะของหุ้นรายตัวที่นักลงทุนสนใจ ควบคู่กันไป

Advertisement