Financial Markets Update

11 ม.ค. 62 | แนวโน้ม SET Index และภาวะการลงทุนรอบโลก

  • แนวโน้ม SET Index —  หลังจากลงมา 2 วัน ก็กลับมาบวกได้ แนวโน้มระยะสั้นยังเป็นขาขึ้น แต่แนวโน้มระยะกลางยังไม่สวย เพราะก่อนหน้าลงมายาวจาก 1,750 จุด (นี่ยังไม่ผ่าน 1,600 เรย) .. โดยที่แนวโน้มขาลง/ขาขึ้น ให้ดูที่ทิศทางลูกศร MACD ในกราฟ โดยแนวโน้มล่าสุด ให้ดูตามทิศทางหัวลูกศรอันขวาสุด (อันล่าสุด)
  • แนวโน้มค่าเงินบาท — หลังจากสัปดาห์ก่อนแข็งค่าอย่างเร็ว เริ่มสัปดาห์มาก็ทรง ๆ ที่ระดับ 31.9x – 32.0x THB/USD .. แนวโน้มยังเป็นด้านแข็งค่า 
  • การซื้อขายสุทธิในตลาดหุ้นของนักลงทุนกลุ่มต่าง ๆ — แม้รายวัน (เช่นวันนี้) จะมีการซื้อสุทธิบ้าง แต่ในภาพรวมต่างชาติยังขายสุทธิสะสมเยอะมากตั้งแต่ต้นปี 2561 ขายได้ขายดี
  • แนวโน้มราคาทองคำ — หลังจากขยับขึ้นไปเกือบทะลุ $1,300 แต่ก็ย่อลงมาที่ระดับ $1,28x แต่แนวโน้มระยะกลางยังเป็นขาขึ้นได้อยู่
  • แนวโน้มราคาน้ำมันดิบ — พุ่งทะลุระดับ $60 ได้แล้ว นับเป็นการบวกแรงสองสัปดาห์ติดกัน ทำให้หุ้นไทยในภาพรวมยืนได้ตามไปด้วย เนื่องจากหุ้นพลังงานคุมทิศทางอยู่ .. แต่เนื่องจากราคาน้ำมันลงมาแรงในช่วงหลายสัปดาห์ก่อนหน้า แนวโน้มจึงยังเป็นขาลงอยู่ต่อไป

(กราฟจากบริการ Aspen by ThaiQuest)

  • Snapshot ตลาดหุ้นที่สำคัญทั่วโลก (ข้อมูลจาก cnbc.com) — ช่วงเย็น ตลาดหุ้นส่วนใหญ่ติดลบเล็กน้อย
  • Snapshot ตลาดตราสารหนี้ทั่วโลก (ข้อมูลจาก cnbc.com) — Yield ขยับลง ราคาขยับขึ้นกันทั่วหน้า .. โดยที่ ราคา vs ผลตอบแทน ของตราสารหนี้ จะแปรผกผันกัน (อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับกลไกอัตราดอกเบี้ยและราคาตราสารหนี้ได้ ที่นี่)

ชวนทำความเข้าใจ

  • สัญญาณขาขึ้นขาลงที่อยู่ในกราฟ (ตัวหนังสือ MACD พร้อมหัวลูกศร) มาจากเครื่องมือ MACD ซึ่งสัญญาณนั้นเป็น “ผล” จาก “เหตุปัจจัยต่าง ๆ” เท่านั้น ไม่ว่าจะเป็น การเมืองไทย การเมืองโลก เศรษฐกิจไทย เศรษฐกิจโลก ภาวะธุรกิจตลอดจนข่าวของบริษัทเอง ฯลฯ … เราจึงดูกราฟเพื่อให้รู้ว่าปัจจัยต้นเหตุต่าง ๆ การคาดการณ์ต่าง ๆ ในช่วงนี้ ส่งผลต่อแนวโน้มราคาในระยะนี้ต่อไปถึงอนาคต “ใกล้ ๆ” อย่างไรบ้าง … แต่เราไม่สามารถเอากราฟซึ่งเป็น “ผล” กลับไปพยากรณ์ “เหตุ” ในอนาคตไกล ๆ ได้ ไม่ว่าจะใช้เครื่องมืออะไร หรือแนวเทคนิกแบบไหนก็ตาม
  • ข้อมูลตลาดหุ้นจะใช้ SET Index เป็นตัวแทน เพื่อให้นำเสนอข้อมูลภาพรวมได้จริงในทางปฏิบัติ ภาวะของหุ้นรายตัวอื่น ๆ อาจต่างไปจากภาวะของตลาดโดยรวมก็ได้ นักลงทุนจึงควรพิจารณาสถานะของหุ้นรายตัวที่นักลงทุนสนใจ ควบคู่กันไป

Advertisement