Investment Articles

ประพันธ์ อนุพงษ์องอาจ The Doing Leader จากความสำเร็จในธุรกิจสินเชื่อรถยนต์สู่บทบาท CEO ธนาคารธนชาต

นับเป็นก้าวใหม่ของธนชาตในการเปลี่ยนแปลงผู้บริหารระดับสูง ที่ได้คุณประพันธ์ อนุพงษ์องอาจ ขึ้นมานั่งแท่น CEO คนใหม่พร้อมขับเคลื่อนธนชาตให้เติบโตเพื่อรักษาตำแหน่งธนาคารชั้นนำของประเทศ

คุณประพันธ์ มีประสบการณ์ในแวดวงการเงินการธนาคารมากว่า 30 ปี ตั้งแต่ครั้งยังเป็นเงินทุนหลักทรัพย์ธนชาต ทำให้มีความเข้าใจในธุรกิจและระบบการทำงานของธนชาตเป็นอย่างดีโดยมีบทบาทเป็นผู้นำในการติดตั้งระบบ Core Banking ซึ่งเป็นหัวใจของกระบวนการทำงานของสถาบันการเงิน ขณะที่ความเชี่ยวชาญหลักของคุณประพันธ์ฯ คือการบริหารและสร้างความเติบโตให้ธุรกิจสินเชื่อรถยนต์ โดยในปี 2553 ได้ขึ้นดำรงตำแหน่งผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ พัฒนาผลิตภัณฑ์สินเชื่อที่มีหลักประกันและธุรกิจเงินฝาก  ควบตำแหน่งกรรมการบริหาร บริษัท ราชธานีลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทสินเชื่อยานพาหนะในกลุ่มธนชาต ต่อมาในปี 2557 ได้ก้าวขึ้นมาดูแลธุรกิจสินเชื่อรถยนต์ของธนาคารธนชาตอย่างเต็มตัว และขึ้นดำรงตำแหน่ง รองกรรมการผู้จัดการ ธุรกิจสินเชื่อรถยนต์ ในปี 2559

ภายใต้การบริหารของคุณประพันธ์ฯ บริการสินเชื่อรถยนต์ของธนาคารธนชาตได้รับรางวัล Auto Loan Product Of the Year 2017 จาก The Asian Banker นิตยสารการเงินการธนาคารชั้นนำของภูมิภาคเอเซีย ด้านบริการสินเชื่อธนชาตรถแลกเงิน ก็ได้รับรางวัล ADMANAward2017 ซึ่งเป็นงานมอบรางวัลโฆษณาและการสื่อสารการตลาดชั้นนำของประเทศ อีกทั้งในด้านผลประกอบการของธุรกิจสินเชื่อรถยนต์ก็มีความเติบโตอย่างโดดเด่น โดยในปี 2558 มีกำไร 1,300 ล้านบาท ก่อนจะเพิ่มเป็น 3,800 ล้านบาทในปี 2559 และก้าวสู่ระดับ 5,100 ล้านบาทในปี 2560

ส่วนภาพรวมในปี 2561 ที่ผ่านมา ธนาคารธนชาตดำเนินธุรกิจเติบโตอย่างต่อเนื่อง ผ่านนโยบายเชิงรุก ด้วยกลยุทธ์ให้ลูกค้าเป็นศูนย์กลาง (Customer Centric) มุ่งเน้นบริการที่มีคุณภาพในทุกช่องทาง พร้อมนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับความต้องการของลูกค้าในด้านฐานะการเงินและผลการดำเนินงานก็แสดงถึงความแข็งแกร่งและเติบโต

ด้านฐานะการเงินธนาคารธนชาตสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง โดยธนาคารและบริษัทย่อยมีสินทรัพย์รวมเพิ่มขึ้น 3.67%จากปี 2560ขณะที่ยอดสินเชื่อรวมที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น 5.88%ซึ่งมาจากการเติบโตของสินเชื่อรายย่อยและสินเชื่อ SME โดยเฉพาะสินเชื่อเช่าซื้อที่เติบโตถึง13.44%ในด้านต้นทุนเงินทุน ธนาคารธนชาตมีสัดส่วนเงินรับฝากประเภทกระแสรายวันและเงินรับฝากประเภทออมทรัพย์ (CASA) ต่อเงินรับฝากทั้งหมด อยู่ที่ร้อยละ 48.52 เพิ่มขึ้นจากปี2560 ที่มีร้อยละ 42.93 ทำให้ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ย (Net Interest Margin) มีแนวโน้มดีขึ้น ในขณะที่อัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพ (NPL Ratio) ธนชาตสามารถรักษาไว้ที่ระดับประมาณ2.30%ได้อย่างต่อเนื่องจากปีก่อนผ่านการบริหารหนี้ด้อยคุณภาพอย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพ

ด้านผลการดำเนินงานในปี 2561 ธนาคารธนชาตมีรายได้รวมเพิ่มขึ้น 2.99%จากปี 2560 ด้วยการเติบโตของรายได้ดอกเบี้ยสุทธิที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็น 31,038 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 5.54%ซึ่งเป็นผลจากสินเชื่อที่โตขึ้น ส่งผลให้มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 14,703 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 893 ล้านบาท หรือ 6.47% จากปี 2560 และเป็นการเติบโตต่อเนื่องเป็นปีที่ 4มีอัตราผลตอบแทนต่อสินทรัพย์รวมเฉลี่ย (ROAA) เพิ่มขึ้นเป็น 1.46%จาก 1.42%ในปี 2560 และมีอัตราผลตอบแทนส่วนของผู้ถือหุ้นเฉลี่ย (ROAE) อยู่ในระดับสูงกว่า 10% ต่อเนื่องกันเป็นปีที่สาม


(กำไรสุทธิปี 2556 ไม่รวมกำไรจากการขาย บมจ. ธนชาตประกันชีวิต ให้กับ Prudential)

(ROAA และ ROAE ปี 2556 รวมผลจากการขาย บมจ. ธนชาตประกันชีวิต หากไม่รวมรายการดังกล่าว ROAA จะเท่ากับ 0.99% และ ROAE จะเท่ากับ 11.21%)

จากความสำเร็จดังกล่าวในปี 2562 คุณประพันธ์ อนุพงษ์องอาจ พร้อมสานต่อความสำเร็จและตั้งเป้าหมายในการดำเนินธุรกิจให้ดียิ่งขึ้นโดยชูนโยบาย Customer Centric ผสานการทำงานแบบ Fast & Focused เน้นตั้งเป้าหมายที่ชัดเจน วัดผลได้ สื่อสารให้ทีมงานรับรู้และมีแรงผลักดันที่จะเติบโตไปสู่เป้าหมายเดียวกัน นั่นคือการเติบโตของกำไรในระดับ 6-7% ต่อปี ผ่านการเพิ่มฐานเงินฝากให้ขยายตัวมากกว่า 10%  และเพิ่มฐานสินเชื่อให้ขยายตัวมากกว่า 7% ทั้งจากสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ซึ่งเป็นธุรกิจหลักที่ธนาคารเป็นผู้นำในอุตสาหกรรม และสินเชื่อรายย่อย เช่น สินเชื่อบ้าน สินเชื่อส่วนบุคคล พร้อมทั้งรักษาคุณสภาพของสินทรัพย์ให้มีอัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพ (NPL Ratio) อยู่ในระดับประมาณ2.3%

แนวทางการบริหารงานในปี 2562 คุณประพันธ์ อนุพงษ์องอาจ ได้กำหนดกลยุทธ์และทิศทางการดำเนินธุรกิจไว้อย่างชัดเจนในหลายด้าน เพื่อบรรลุเป้าหมายที่ท้าทายทุกด้าน ได้แก่

1. การปรับผังผู้บริหารและตั้งหน่วยงานใหม่ ให้สอดรับกับแผนธุรกิจและลักษณะการใช้บริการของลูกค้า (Customer Journey)โดยให้แต่ละหน่วยงานเน้นหนักกับหน่วยธุรกิจมากยิ่งขึ้น เช่น การตั้งหน่วยงาน Enterprise Digital Banking เพื่อศึกษาพฤติกรรมลูกค้าที่เปลี่ยนไปและวางกลยุทธ์ด้านดิจิทัลให้เหมาะสมรวมถึงการนำโมเดลการบริหารธุรกิจสินเชื่อรถยนต์ที่ประสบความสำเร็จมาใช้เป็นต้นแบบบริหารธุรกิจด้านอื่นๆนอกจากนั้น จะเน้นให้แต่ละธุรกิจจะมีทีมบริหารที่ดูแลงานขายและงานพัฒนาผลิตภัณฑ์ของตัวเองตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ

2. มุ่งสู่การเป็นองค์กรที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล (Data Driven Organization) โดยจะนำข้อมูลมาใช้ขับเคลื่อนธุรกิจทุกทิศทางเพื่อให้เกิดผลลัพธ์อย่างเป็นรูปธรรม

3. ลดกระบวนการทำงาน (Agility) เน้นเปลี่ยนสู่ระบบอัตโนมัติที่ได้ทั้งประสิทธิภาพและความแม่นยำ โดยที่ผ่านมาธนาคารธนชาตได้พัฒนาระบบ Automotive Lending Digital Experience (ALDX) ให้เจ้าหน้าที่สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ใช้อำนวยความสะดวกให้ลูกค้าได้รับการบริการที่รวดเร็วขึ้น

4. สนับสนุนให้พนักงานมีทักษะและความรู้ลึกรู้รอบเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการให้คำปรึกษาด้านการเงินแก่ลูกค้า (Advisor)อย่างตรงจุดและมีความสม่ำเสมอ

ทางด้านบุคลากรหลัก ธนาคารธนชาตยังมีทีมผู้บริหารซึ่งมากประสบการณ์ มีความเข้าใจลูกค้าและภาวะอุตสาหกรรมอย่างลึกซึ้ง โดยจะดูแลธุรกิจหลักส่วนต่าง ๆ เพื่อร่วมขับเคลื่อนให้ธนาคารธนชาตประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่ตั้งไว้อันประกอบไปด้วย

– คุณอนุวัติร์ เหลืองทวีกุล รองกรรมการผู้จัดการ ดูแลบริหารงานธุรกิจลูกค้ารายย่อยและลูกค้าธุรกิจขนาดเล็ก ที่พร้อมผลักดันให้ธุรกิจด้านนี้เติบโตขึ้นพร้อม ๆ กับธุรกิจสินเชื่อหลักด้านอื่น ๆ

– คุณวิลเลียม ซาอิด รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร รับผิดชอบบริหารด้านลูกค้าธุรกิจรายใหญ่และการพัฒนาเทคโนโลยีนวัตกรรม ซึ่งมีประสบการณ์บริหารงานธุรกิจด้านโครงสร้างต้นทุน รวมถึงการบริหารความเสี่ยงของสโกเทียแบงก์มาแล้วในหลายประเทศ

– คุณป้อมเพชร รสานนท์ รองกรรมการผู้จัดการ ดูแลบริหารธุรกิจสินเชื่อรถยนต์ ซึ่งมีประสบการณ์ขยายธุรกิจให้กับธนาคารธนชาติมากนานกว่า 30 ปี

 “สำหรับพันธกิจที่ธนาคารธนชาตจะมุ่งไปในปี 2562 ประกอบด้วย 4 เรื่อง ได้แก่ การรักษาความเป็นที่หนึ่งในตลาดสินเชื่อรถยนต์พัฒนาสินเชื่อให้เติบโตอย่างมีคุณภาพเพิ่มบัญชีเงินฝากออมทรัพย์และกระแสรายวัน (CASA) และขยายสัดส่วนธุรกิจลูกค้ารายย่อย ซึ่งจากกลยุทธ์และทิศทางบริหารงานที่คมชัดดังกล่าวประกอบกับทีมงานที่มีคุณภาพ ผมเชื่อมั่นว่าจะทำให้ธนชาตไปถึงเป้าหมายของปี 2562 ได้ และผลประกอบการจะเติบโตไม่น้อยกว่าปีที่ผ่านมา” CEO ไฟแรงของธนาคารธนชาตกล่าวสรุป

[Special Content]

Categories: Investment Articles