Financial Markets Update

14 พ.ค. 62 | แนวโน้ม SET Index และภาวะการลงทุนรอบโลก

  • SET Index — วันนี้ยังลบต่อเนื่อง เป็นวันที่ 6 แนวโน้มระยะสั้นเป็นขาลง พร้อมกับพาแนวโน้มระยะกลางเป็นขาลงด้วย (อย่างไม่เป็นทางการ) หลังจากเป็นขาขึ้นมาตั้งแต่มกราคม 2562 .. โดยที่แนวโน้มขาลง/ขาขึ้น ให้ดูที่ทิศทางลูกศร MACD และแถบสีเขียว (แนวโน้มดีต่อนักลงทุน)/สีแดง (แนวโน้มแย่ต่อนักลงทุน) ในกราฟ
  • ค่าเงินบาทเทียบ USD — แข็งค่าอย่างเร็วมาที่ระดับ $31.4x แนวโน้มกลับเป็นด้านแข็งค่า
  • การซื้อขายสุทธิในตลาดหุ้นของนักลงทุนกลุ่มต่าง ๆ — ในภาพรวม ต่างชาติก็ยังเป็นฝ่ายขายสุทธิอยู่เยอะมาก ต่อเนื่องมาจากต้นปี 2561 แต่ช่วงเดือนนี้ต่างชาติกลับมาซื้อบ้างแล้ว
  • ราคาน้ำมันดิบ — ทรงตัวอยู่ที่ระดับ $70 โดยแนวโน้มราคายังเป็นขาขึ้น ติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 18
  • ราคาทองคำ — ขยับขึ้นมาจ่อแนว $1,300 แต่แนวโน้มยังอยู่ในขาลง ติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 11
  • Snapshot ตลาดหุ้นที่สำคัญทั่วโลก (ข้อมูลจาก tradingeconomics.com) — ฟื้นตัวจากเมื่อวานที่ลบหนักจากข่าวสงครามการค้าจีน-สหรัฐฯ
  • Snapshot ตลาดตราสารหนี้ทั่วโลก (ข้อมูลจาก cnbc.com) — Yield ขยับขึ้นพร้อมหน้า ทำให้ราคาลดลง .. โดยที่ ราคา vs ผลตอบแทน ของตราสารหนี้ จะแปรผกผันกัน (อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับกลไกอัตราดอกเบี้ยและราคาตราสารหนี้ได้ ที่นี่)

ชวนทำความเข้าใจ

  • สัญญาณขาขึ้นขาลงที่อยู่ในกราฟ (ตัวหนังสือ MACD พร้อมหัวลูกศร) มาจากเครื่องมือ MACD ซึ่งสัญญาณนั้นเป็น “ผล” จาก “เหตุปัจจัยต่าง ๆ” เท่านั้น ไม่ว่าจะเป็น การเมืองไทย การเมืองโลก เศรษฐกิจไทย เศรษฐกิจโลก ภาวะธุรกิจตลอดจนข่าวของบริษัทเอง ฯลฯ … เราจึงดูกราฟเพื่อให้รู้ว่าปัจจัยต้นเหตุต่าง ๆ การคาดการณ์ต่าง ๆ ในช่วงนี้ ส่งผลต่อแนวโน้มราคาในระยะนี้ต่อไปถึงอนาคต “ใกล้ ๆ” อย่างไรบ้าง … แต่เราไม่สามารถเอากราฟซึ่งเป็น “ผล” กลับไปพยากรณ์ “เหตุ” ในอนาคตไกล ๆ ได้ ไม่ว่าจะใช้เครื่องมืออะไร หรือแนวเทคนิกแบบไหนก็ตาม
  • ข้อมูลตลาดหุ้นจะใช้ SET Index เป็นตัวแทน เพื่อให้นำเสนอข้อมูลภาพรวมได้จริงในทางปฏิบัติ ภาวะของหุ้นรายตัวอื่น ๆ อาจต่างไปจากภาวะของตลาดโดยรวมก็ได้ นักลงทุนจึงควรพิจารณาสถานะของหุ้นรายตัวที่นักลงทุนสนใจ ควบคู่กันไป
(ad)