ในปัจจุบัน หลายคนเริ่มพูดถึงเรื่องการเกษียณที่เร็วขึ้น รวมถึงเทคโนโลยีการแพทย์ที่ทันสมัยทำให้คนอายุยืนขึ้น นั่นหมายความว่า หากคุณเกษียณไวขึ้น โดยที่อายุของคุณมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น คุณจะมีเวลาทำงานเก็บเงินสั้นลง ในขณะที่จะต้องมีเงินให้พอใช้ในช่วงเวลาที่นานขึ้น ลำพังเราทำงาน เก็บเงินใส่ตุ่ม หรือนำไปฝากธนาคารที่ได้อัตราดอกเบี้ยเพียงน้อยนิด ก็ยากที่จะเพียงพอต่อการเกษียณ นี่ยังไม่รวมถึงอัตราเงินเฟ้อ ซึ่งจะยิ่งทำให้มูลค่าเงินของเราในอนาคตลดลงอีก แล้วเราจะดูแลตัวเองในช่วงที่เราไม่ทำงานแล้วได้อย่างไร การวางแผนการเงินจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยเรื่องพวกนี้ได้
หากเราลองตั้งเป้าหมายว่าจะเกษียณภายในอายุ 55 ปี โดยตอนนี้คุณอายุ 35 ปี คุณจะมีเวลาทำงานเก็บเงินทั้งสิ้น 20 ปี ขณะที่ตอนนี้สามารถจัดสรรเงินมาลงทุนได้ 20,000 บาท/เดือน และมีเงินออมอยู่แล้ว 1,000,000 บาท โดยตั้งเป้าหมายจะมีเงินใช้หลังเกษียณ 30,000 บาท/เดือน
ถ้าคุณไม่สามารถลงทุนได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ แต่นำเงินไปฝากธนาคารซึ่งได้ดอกเบี้ยเพียง 0.5% ต่อปี คุณจะต้องเก็บเงินมาลงทุนให้ได้ 281,609 บาท/เดือนต่อเนื่องไปอีก 20 ปี เพื่อให้ไปถึงเป้าหมายการมีเงินใช้หลังเกษียณอย่างที่ตั้งใจ ซึ่งหากดูตามสถานการณ์แล้ว คุณไม่น่าจะไปถึงเป้าหมายได้ เพราะคุณมีกำลังลงทุนได้จริงแค่ 20,000 บาท/เดือน อีกทั้งยังได้ผลตอบแทนระดับต่ำมากในแต่ละปี


thailandinvestmentforum.com/2018/05/10/retirecal)
แต่เมื่อพูดถึงการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่าเงินฝากหลายคนคงจะนึกถึงตลาดหุ้น อย่างไรก็ดี การลงทุนที่มุ่งหวังด้านผลตอบแทนสูงสุดเพียงอย่างเดียว อาจไม่ได้เป็นคำตอบสุดท้ายของการลงทุนที่ดีที่สุดเสมอไป เราจะต้องเลือกลงทุนให้เหมาะสมกับตัวเองแต่ยังเปิดโอกาสให้ไปถึงเป้าหมายได้อย่างมั่นคง ซึ่งหมายถึงการกระจายการลงทุนในหลากหลายสินทรัพย์ (Asset Allocation) หรือเป็นการผสมสัดส่วนสินทรัพย์ต่างประเภทเข้าด้วยกันเพื่อให้ความเสี่ยงสินทรัพย์แต่ละประเภทหักล้างกันเอง จนเป็นผลให้ความเสี่ยงโดยรวมของการลงทุนลดต่ำลง แต่ยังเปิดโอกาสให้ได้รับผลตอบแทนสูงสุดภายในระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ การลงทุนแบบ Asset Allocation จึงเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยกระจายความเสี่ยงสำหรับการลงทุนเพื่อให้เราได้ผลตอบแทนตามเป้าหมายได้อย่างปลอดภัย นับเป็นสูตรสำเร็จในการลงทุนระยะยาว
ผู้ที่สนใจลงทุนทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นมือใหม่ หรือมือเก๋า อาจจะเคยเจ็บปวดกับการลงทุนแตกต่างกันไป มือใหม่ที่พึ่งจะเริ่มหัดลงทุน อาจจะเจอปัญหาว่า ไม่รู้จะเริ่มลงทุนอย่างไร รู้สึกว่าการลงทุนเป็นเรื่องยาก สินทรัพย์ที่มีในตลาดก็เยอะแยะมากมาย แต่อยากลงทุนเพราะทุกคนบอกให้ลงทุน ทำให้พอลงทุนจริงแล้วเจอกับผลขาดทุนหนักและขยาดกับการลงทุนไปเลย หรือ มือเก๋าที่มีความรู้และประสบการณ์ในการลงทุน แต่ไม่มีเวลา แค่ทำงานประจำก็หมดวันแล้ว ก็อาจจะเจอปัญหาไม่มีเวลาคอยติดตามตลาด ทำให้ปรับตัวตามตลาดไม่ทันและพลาดโอกาสทำกำไรจากการลงทุน หากคุณเคยมีปัญหาเหล่านี้ การมีพาร์ทเนอร์ดี ๆ ที่คอยช่วยดูแลเรื่องการลงทุนจึงสำคัญไม่แพ้กัน
TMB Smart Port บริการดี ๆ จากธนาคารทีเอ็มบี คือบริการที่จะช่วยจัดพอร์ตการลงทุนโดยมืออาชีพ โดยมีขั้นตอนง่าย ๆ คือ (1) สำรวจและทำความเข้าใจเป้าหมายและความเสี่ยงลูกค้า (2) กำหนดแผนจัดสัดส่วนการลงทุน (3) แนะนำพอร์ตที่ใช่สำหรับคุณ (4) ติดตามและปรับสัดส่วนพอร์ตการลงทุนตามสภาวะตลาด (5) รายงานภาพรวมการลงทุนของลูกค้าและข้อมูลสถานการณ์ตลาด ตอบโจทย์ผู้สนใจเรื่องการลงทุนในกองทุนรวม แต่ไม่รู้ว่าจะเริ่มลงทุนจัดพอร์ตอย่างไร และไม่มีเวลาในการจับตาดูสภาวะตลาด ไม่ว่าจะเป็นมือใหม่หรือมือเก๋าก็สามารถลงทุนได้อย่างมั่นใจ ทำให้การลงทุนเป็นเรื่องง่ายขึ้น ไม่ยุ่งยาก ไม่พลาดโอกาสในการทำกำไรจากการซื้อ/ขายที่ทันเวลา ให้นักลงทุนก้าวถึงเป้าหมายทางการเงินได้เร็วขึ้น

จุดเด่นของ TMB Smart Port คือ คัด จัด ปรับ
- คัดกองทุนตัวท็อปคุณภาพดีจาก ทุกประเภทสินทรัพย์ จาก 10 บลจ. ชั้นนำ มาให้ในพอร์ตของคุณ
- นำกองทุนที่คัดมาแล้ว มาจัดสัดส่วนการลงทุนเป็นพอร์ตการลงทุนสำเร็จรูป ตามระดับความเสี่ยงที่เหมาะสม เพื่อให้คุณได้รับผลตอบแทนที่เหมาะสม ตามความเสี่ยงที่คุณสบายใจ เหมาะสำหรับผู้ที่สนใจจะลงทุนทุกประเภท
- เมื่อคัดและจัดแล้ว ยังช่วยปรับสัดส่วนการลงทุนในพอร์ตให้ลูกค้าสม่ำเสมอ เพื่อให้ลูกค้ามีโอกาสได้ผลตอบแทนตามแผนที่คาดหวังไว้
โดยแบ่งเป็น 5 พอร์ตโมเดลตามระดับความเสี่ยง ซึ่งครอบคลุมนักลงทุนหลาย ๆ ประเภท ให้นักลงทุนเลือกลงทุนได้ตามความเหมาะสม ได้แก่
1. Risk Averse Portfolio เหมาะสำหรับผู้ที่รับความเสี่ยงได้ต่ำ เน้นลงทุนในกองทุนตราสารหนี้ โดยมีเป้าหมายคือรักษาเงินต้น และสร้างผลตอบแทนที่มั่นคง

2. Conservative Portfolio เหมาะสำหรับผู้ที่รับความเสี่ยงได้ค่อนข้างต่ำ โดยลงทุนในกองทุนตราสารหนี้เป็นหลักอยู่ แต่เพิ่มสัดส่วนลงทุนในกองทุนหุ้น เน้นเอาชนะเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ยออมทรัพย์

3. Balanced Portfolio เหมาะสำหรับผู้ที่รับความเสี่ยงปานกลาง สามารถรับความเสี่ยงจากกองทุนหุ้น เน้นสร้างรายได้สม่ำเสมอและมีแนวโน้มเติบโต

4. Advanced Portfolio เหมาะสำหรับผู้รับความเสี่ยงปานกลางถึงสูง สร้างโอกาสรับผลตอบแทนสูง จากสัดส่วนกองทุนหุ้นที่สูงขึ้น

5. Aggressive Portfolio เหมาะสำหรับผู้รับความเสี่ยงได้สูงสุด สร้างโอกาสรับผลตอบแทนที่สูงมาก เน้นลงทุนในกองทุนหุ้นทั้งในและต่างประเทศ

ตัวอย่างกองทุนที่ TMB Smart Port คัดมาให้ในพอร์ต Balanced


โดยการคัดเลือกกองทุนแต่ละประเภทของ TMB Smart Port ไม่ได้คัดจากผลดำเนินงานของกองทุนเพียงอย่างเดียว แต่ดูหลาย ๆ อย่างประกอบกัน ทั้งผลการดำเนินงานในอดีต สัมภาษณ์ผู้จัดการกองทุน และเข้าไปดูระบบงานของบลจ. ถึงจะได้มาซึ่งกองทุนที่ดีและเหมาะสมที่สุด
ผู้ที่สนใจ TMB Smart Port บริการจัดพอร์ตการลงทุน ที่ตอบทุกโจทย์การลงทุนแบบครบวงจร บริหารโดยมืออาชีพ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ tmbbank.com/tmbadvisory/tmbsmartport และหากต้องการเริ่มลงทุนได้อย่างง่าย ๆ ก็สามารถติดต่อได้ที่ธนาคารทีเอ็มบีทุกสาขา หรือ TMB Investment Line โทร 1558 กด #9
Categories: Investment Articles