• SET Index — ลบ 5 จุด แต่แนวโน้มระยะสั้นยังเป็นขาขึ้น เพราะยังได้แรงส่งจากปลายเดือนส.ค. ส่วนระยะกลางก็ยังเป็นขาลง เวลาตลาดทิศทางไม่ชัด ก็จะเป็นแบบนี้ที่แนวโน้มระยะสั้นและระยะกลางไม่สอดคล้องกัน สลับกันไปมา .. โดยที่แนวโน้มขาลง/ขาขึ้น ให้ดูที่ทิศทางลูกศร MACD และแถบสีเขียว (แนวโน้มดีต่อนักลงทุน)/สีแดง (แนวโน้มแย่ต่อนักลงทุน) ในกราฟ
• ค่าเงินบาทเทียบ USD — อ่อนค่าไปที่รดับ 30.6x THB/USD แนวโน้มกลับเป็นฝั่งอ่อนค่า
• การซื้อขายสุทธิในตลาดหุ้นของนักลงทุนกลุ่มต่าง ๆ — หลังจากต่างชาติเข้าซื้อสุทธิเยอะมาตั้งแต่ปลายเดือนพ.ค. 62 พอเข้าช่วงปลายเดือน ก.ค. 62 เป็นต้นมา ก็กลับมาขายสุทธิเยอะมากอีกครั้ง และต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน
• ราคาน้ำมันดิบ — เด้งยาวขึ้นมาที่ระดับเกือบ $63 แนวโน้มกลับเป็นขาขึ้นอีกครั้ง
• ราคาทองคำ — ร่วงยาวทะลุแนว $1,500 ลงมา แต่แนวโน้มยังเป็นขาขึ้นมาตั้งแต่ปลายเดือน มิ.ย. 62

• Snapshot ตลาดหุ้นที่สำคัญทั่วโลก (ข้อมูลจาก tradingeconomics.com / cnbc.com) — บวกลบผสมกันบาง ๆ

• Snapshot ตลาดตราสารหนี้ทั่วโลก (ข้อมูลจาก cnbc.com) — Yield เพิ่มขึ้น ราคาลดลง .. โดยที่ ราคา vs ผลตอบแทน ของตราสารหนี้ จะแปรผกผันกัน (อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับกลไกอัตราดอกเบี้ยและราคาตราสารหนี้ได้ ที่นี่)

ชวนทำความเข้าใจ

• สัญญาณขาขึ้นขาลงที่อยู่ในกราฟ (ตัวหนังสือ MACD พร้อมหัวลูกศร) มาจากเครื่องมือ MACD ซึ่งสัญญาณนั้นเป็น “ผล” จาก “เหตุปัจจัยต่าง ๆ” เท่านั้น ไม่ว่าจะเป็น การเมืองไทย การเมืองโลก เศรษฐกิจไทย เศรษฐกิจโลก ภาวะธุรกิจตลอดจนข่าวของบริษัทเอง ฯลฯ … เราจึงดูกราฟเพื่อให้รู้ว่าปัจจัยต้นเหตุต่าง ๆ การคาดการณ์ต่าง ๆ ในช่วงนี้ ส่งผลต่อแนวโน้มราคาในระยะนี้ต่อไปถึงอนาคต “ใกล้ ๆ” อย่างไรบ้าง … แต่เราไม่สามารถเอากราฟซึ่งเป็น “ผล” กลับไปพยากรณ์ “เหตุ” ในอนาคตไกล ๆ ได้ ไม่ว่าจะใช้เครื่องมืออะไร หรือแนวเทคนิกแบบไหนก็ตาม
• ข้อมูลตลาดหุ้นจะใช้ SET Index เป็นตัวแทน เพื่อให้นำเสนอข้อมูลภาพรวมได้จริงในทางปฏิบัติ ภาวะของหุ้นรายตัวอื่น ๆ อาจต่างไปจากภาวะของตลาดโดยรวมก็ได้ นักลงทุนจึงควรพิจารณาสถานะของหุ้นรายตัวที่นักลงทุนสนใจ ควบคู่กันไป