Investment Articles

ลงทุนทองคำอย่างมั่นใจในภาวะดอกเบี้ยต่ำเศรษฐกิจชะลอตัว .. กับ YLG

เป็นที่ทราบกันดี ว่าตั้งแต่กลางปี 2561 เป็นต้นมา เศรษฐกิจทั่วโลก โดยเฉพาะในประเทศที่มีเศรษฐกิจขนาดใหญ่ มีอัตราการเติบโตลดลงมาก และสำหรับประเทศไทยเอง ล่าสุดก็ได้เปิดเผยตัวเลข GDP ไตรมาส 4/2562 ซึ่งพบว่าเติบโตในระดับ 1.6% เทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ซึ่งถือเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 21 ไตรมาส หรือตั้งแต่ปลายปี 2557 เป็นต้นมา

และเมื่อย่างเข้าปี 2563 ประเด็นสำคัญที่อุบัติตั้งแต่ต้นปี ก็คือการระบาดของไวรัสโคโรนา COVID-19 ซึ่งมีต้นทางมาจากประเทศจีน โดยจีนเป็นประเทศคู่ค้าที่สำคัญของหลายประเทศทั่วโลกรวมถึงประเทศไทย ทำให้ผลกระทบในเชิงเศรษฐกิจเกิดในวงกว้างทั่วโลก จึงเป็นที่คาดการณ์กันค่อนข้างชัดเจน ว่าภาวะเศรษฐกิจโลกในไตรมาส 1/2563 น่าจะชะลอตัวรุนแรงกว่าไตรมาส 4/2562

จากภาวะดังกล่าว ธนาคารกลางในหลายประเทศและเขตเศรษฐกิจสำคัญของโลก หากไม่คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ในระดับต่ำมาก ก็ได้มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง รวมถึงดำเนินการมาตรการอัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ระบบการเงิน เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ

ท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่อัตราดอกเบี้ยทั่วโลกอยู่ในระดับต่ำ ขณะที่สภาพคล่องของระบบการเงินอยู่ในระดับสูง บวกรวมกับความไม่แน่นอนทั้งทางเศรษฐกิจและการเมือง ทำให้นักลงทุนจัดสรรเงินมาลงทุนในทองคำกันมากขึ้น โดยในปี 2562 ราคาทองคำในตลาดโลก ปรับตัวเพิ่มจากระดับ 1,282 USD/Oz มาอยู่ที่ 1,517 USD/Oz หรือเพิ่มขึ้นถึง 18% อีกทั้งแนวโน้มราคาในปี 2563 ก็ยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

(ที่มา: Aspen by ThaiQuest ณ 20 ก.พ. 63)

นอกจากนั้น หากพิจารณาภาพรวมระยะยาวตั้งแต่มกราคม 2543 จนถึงมกราคม 2563 หรือในกรอบเวลา 20 ปีเศษ พบว่าราคาทองคำในตลาดโลก ได้ปรับเพิ่มขึ้นมาแล้ว 452.94% หรือคิดเป็นผลตอบแทนเฉลี่ยทบต้น 8.88% ต่อปี

(ที่มา: Aspen by ThaiQuest ณ 20 ก.พ. 63)

จากข้อมูลดังกล่าวข้างต้น หากใครต้องการลงทุนในทองคำ ก็มีวิธีการลงทุนที่หลากหลาย ซึ่งมีจุดเด่นที่แตกต่างกันไปดังนี้

ลงทุนทองคำแท่ง:  เป็นสินทรัพย์ที่จับต้องได้และมีสภาพคล่องสูง  มีจุดเด่น คือ ไม่มีค่ากำเหน็จ แต่มีข้อจำกัดในแง่ของการเก็บรักษาและต้องใช้เงินลงทุนจำนวนมาก

ลงทุนทองรูปพรรณ: เป็นการถือสินทรัพย์จับต้องได้และสภาพคล่องสูงเช่นเดียวกับทองคำแท่ง  แตกต่างที่จะมีคุณค่าเพิ่มในแง่ของการได้สวมใส่  แต่มีข้อจำกัด  คือ  มีต้นทุนที่เป็นค่ากำเหน็จเพิ่มเติมเข้ามา

ลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า: มีจุดเด่นคือใช้เงินลงทุนไม่มาก แค่เพียงวางเงินหลักประกันซึ่งมีมูลค่าไม่เกิน 10% ของมูลค่าสัญญาเท่านั้น จึงมีอัตราทด (Leverage) เสมือนถือมูลค่าทองคำสูง ทำให้มีโอกาสรับผลตอบแทนสูงขึ้นหากพิจารณาลงทุนได้ถูกจังหวะ แต่ก็นำมาซึ่งความเสี่ยงหากลงทุนผิดทาง นอกจากนี้ยังสามารถลงทุนทุกสภาวะตลาดทั้งขาขึ้นและขาลง ขณะที่สัญญามีวันหมดอายุและไม่ได้ถือครองทองคำจริง

ลงทุนในกองทุนทองคำ: มีจุดเด่นคือใช้เงินลงทุนไม่มากก็สามารถเริ่มลงทุนได้ ไม่จำเป็นต้องเฝ้าราคา ไม่ต้องกังวลเรื่องการเก็บรักษาหรือการสูญหาย  แต่นักลงทุนจะไม่ได้ถือครองทองคำจริงโดยถือในรูปแบบของหน่วยลงทุนแทน และจะได้กำไรเฉพาะภาวะที่ราคาเป็นขาขึ้นเท่านั้น

เมื่อพิจารณาด้านการลงทุนในทองคำแท่ง ทองรูปพรรณ และสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ซึ่งแต่ละแบบก็มีจุดเด่นเฉพาะตัว “YLG” นับเป็นผู้ให้บริการที่มีชื่อเสียงยาวนานในวงการค้าทองคำ ได้รับการยอมรับในระดับสากล อีกทั้งมีทีมผู้บริหารที่มีประสบการณ์

โดยผลิตภัณฑ์การลงทุนในทองคำของ YLG ครอบคลุมดังนี้

1. ทองคำแท่งมาตรฐาน 96.5% มีหลายขนาดตั้งแต่ 0.125 บาททอง จนถึง 10 บาททอง

2. ทองคำแท่งมาตรฐาน 99.99% มีทั้งแบบแท่ง Trading Unit ตรา YLG ที่เริ่มตั้งแต่ขนาด 5 กรัม ไปจนถึง 1 กิโลกรัม และแบบแท่ง 1 กิโลกรัม ที่ได้การรับรองจาก LBMA (London Bullion Market Association)

3. ทองรูปพรรณ แผ่นทอง และทองแท่ง: เลือกซื้อได้ที่สาขาต่าง ๆ ภายใต้แบรนด์ YLG Precious ปัจจุบันมี 2 สาขาบนห้างสรรพสินค้าชั้นนำ ได้แก่ สาขาเซ็นทรัลพระราม 9 และสาขาเซ็นทรัลปิ่นเกล้า รวมไปถึงสาขาสำนักงานใหญ่ (สาทร) รวมทั้งสิ้น 3 สาขา รวมถึง Shopping Online 24 ชั่วโมง ผ่านเว็บไซต์ www.ylgprecious.co.th หรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 02-105-4518 / 02-105-4519 

4. บริการซื้อขายทองคำออนไลน์: ผ่านเว็บไซต์ www.ylgonline.com และ YLG Online Application บน App Store ซึ่งเป็นระบบซื้อ-ขายทองคำแท่ง 99.99% และทองคำแท่ง 96.5% ผ่านอินเตอร์เน็ต สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ YLG Bullion International Call Center โทร 02-687-9888

5. บริการซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าในตลาด Thailand Futures Exchange ( TFEX):  ดำเนินการโดยบริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด ซึ่งอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (กลต.) โดยมีสัญญาล่วงหน้าทองคำ 3 ประเภทให้เลือกลงทุน ได้แก่ 1) Gold Futures อ้างอิงทองคำความบริสุทธิ์ 96.5% ราคาเสนอซื้อ-ขายอยู่ในรูปของเงินบาท  2) Gold Online Futures อ้างอิงทองคำความบริสุทธิ์ 99.5% ราคาเสนอซื้อ-ขายในรูปแบบของดอลลาร์สหรัฐ และ 3) Gold-D ทองคำความบริสุทธิ์ 99.9% ราคาเสนอซื้อ-ขายในรูปแบบของดอลลาร์สหรัฐ และสามารถเลือกได้ว่าจะชำระราคา หรือ ถือสัญญาจนถึงวันสุดท้ายแล้วเลือกรับมอบ-ส่งมอบจริง

ผู้ที่สนใจลงทุน Gold Futures กับ YLG นอกจากจะคลิกตามลิงก์ที่ให้ไว้ข้างต้นแล้ว สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด โทร 02-687-9999 หรือ 02-677-5511

#YLG #ลงทุนทองต้องYLG 

[Special Content]