Financial Markets Update

2 เม.ย. 63| แนวโน้ม SET Index และภาวะลงทุนรอบโลก

  • SET Index — วันนี้บวก 33 จุด แนวโน้มระยะสั้นกลับเป็นขาขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่ 7 (ตั้งแต่ระดับดัชนี 1,080 จุด) แต่แนวโน้มระยะกลางก็ยังคงเป็นขาลงมาตั้งแต่ปลายเดือน ม.ค. 63 เพราะลงมาไกลมาก .. โดยที่แนวโน้มขาลง/ขาขึ้น ให้ดูที่ทิศทางลูกศร MACD และแถบสีเขียว (แนวโน้มดีต่อนักลงทุน)/สีแดง (แนวโน้มแย่ต่อนักลงทุน) ในกราฟ
  • ทองคำ — สัปดาห์ก่อนฟื้นแรง สัปดาห์นี้ทรง ๆ โดยแนวโน้มระยะกลางยังเป็นขาลง เพราะ 3 สัปดาห์ก่อนลงมาแรงเกือบ 200 USD/Oz
  • ค่าเงินบาทเทียบ USD — อ่อนค่าต่อไปที่ 32.97 THB/USD แต่แนวโน้มระยะกลางยังคงเป็นฝั่งอ่อนค่ามาตั้งแต่ พ.ย. 62
  • การซื้อขายสุทธิในตลาดหุ้นของนักลงทุนกลุ่มต่าง ๆ — ในภาพรวม ต่างชาติยังเป็นฝั่งขายสุทธิต่อเนื่องมาตั้งแต่ปีก่อน
  • ราคาน้ำมันดิบ — ฟื้นตัวจากวันจันทร์ค่อนข้างเยอะ แต่ก่อนหน้านี้ลงมาแรงมาก แนวโน้มยังเป็นขาลงแรงตามอุปสงค์การบริโภคพลังงานที่หายไป

  • Snapshot ตลาดหุ้นที่สำคัญ (ข้อมูลจาก tradingeconomics.com / cnbc.com) — ส่วนใหญ่บวก แต่ยังเหลือทางให้ขึ้นไปอีกไกลกว่าจะกลับระดับเดิม
  • Snapshot ตลาดตราสารหนี้ทั่วโลก (ข้อมูลจาก cnbc.com) — Market Yield ของพันธบัตรส่วนใหญ่ลดลง ราคาเพิ่มขึ้น โดยที่ ราคา vs ผลตอบแทน ของตราสารหนี้ จะแปรผกผันกัน (อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับกลไกอัตราดอกเบี้ยและราคาตราสารหนี้ได้ ที่นี่)

  • สัญญาณขาขึ้นขาลงที่อยู่ในกราฟ (ตัวหนังสือ MACD พร้อมหัวลูกศร) มาจากเครื่องมือ MACD ซึ่งสัญญาณนั้นเป็น “ผล” จาก “เหตุปัจจัยต่าง ๆ” เท่านั้น ไม่ว่าจะเป็น การเมืองไทย การเมืองโลก เศรษฐกิจไทย เศรษฐกิจโลก ภาวะธุรกิจตลอดจนข่าวของบริษัทเอง ฯลฯ … เราจึงดูกราฟเพื่อให้รู้ว่าปัจจัยต้นเหตุต่าง ๆ การคาดการณ์ต่าง ๆ ในช่วงนี้ ส่งผลต่อแนวโน้มราคาในระยะนี้ต่อไปถึงอนาคต “ใกล้ ๆ” อย่างไรบ้าง … แต่เราไม่สามารถเอากราฟซึ่งเป็น “ผล” กลับไปพยากรณ์ “เหตุ” ในอนาคตไกล ๆ ได้ ไม่ว่าจะใช้เครื่องมืออะไร หรือแนวเทคนิกแบบไหนก็ตาม
  • ข้อมูลตลาดหุ้นจะใช้ SET Index เป็นตัวแทน เพื่อให้นำเสนอข้อมูลภาพรวมได้จริงในทางปฏิบัติ ภาวะของหุ้นรายตัวอื่น ๆ อาจต่างไปจากภาวะของตลาดโดยรวมก็ได้ นักลงทุนจึงควรพิจารณาสถานะของหุ้นรายตัวที่นักลงทุนสนใจ ควบคู่กันไป