Investment Articles

หลักแห่งความสำเร็จ Principles for Success โดย Ray Dalio | ฉบับย่อสุด ๆ ใน 30 นาที 8 ตอนย่อย

(คำว่า “ฉบับย่อสุด ๆ ใน 30 นาที 8 ตอน” นี้ ล้อตามที่คลิปต้นฉบับตั้งมา TIF ไม่ได้ตั้งชื่อเองให้ดูน่าสนใจขึ้นเป็นพิเศษแต่อย่างใด)

(ที่มาของรูปนี้: youtube.com/watch?v=dKz095P7LdU)

Ray Dalio คือผู้ก่อตั้ง Bridgewater บริษัท hedge fund ระดับโลก คือผู้เขียนหนังสือ “Principles” อันโด่งดัง และ Ray Dalio ได้นำหลักการในหนังสือดังกล่าวมาถ่ายทอดด้วยเสียงตัวเอง ผ่าน YouTube โดยแบ่งเป็น 8 ตอน ตอนละ 3-5 นาที แนะนำให้กดดูกันจากต้นฉบับ (มี Eng Subtitle) ซึ่งรวมกันแล้วไม่เกิน 30 นาที แต่ถ้าใครไม่สะดวกดู TIF ก็ได้แปลบางส่วนและสรุปมาให้แล้ว ณ ที่นี้ ซึ่งจะเรียงกันไปทีละตอนครับ

ตอนที่ 1: The Call to Adventure (เสียงเพรียกสู่การผจญภัย)

  1. แต่ละคนควรมีหลักการ (Principles) ในชีวิตตัวเอง บนพื้นฐานว่าแต่ละคนให้คุณค่าต่อมิติต่าง ๆ ของชีวิตแตกต่างกันไป ดังนั้นหลักการข้อแรกคือ “คุณต้องใคร่ครวญกับตัวเอง ว่าสิ่งใดคือความจริง”
  2. “หลักการ” เป็นกลไกสำคัญที่ใช้รับมือกับเรื่องต่าง ๆ ในชีวิตที่เกิดขึ้นซ้ำ ๆ
  3. ความสำเร็จในชีวิตส่วนใหญ่เป็นการเผชิญสิ่งที่ไม่รู้มาก่อน เราจึงสั่งสมประสบการณ์ผ่านความผิดพลาด และคิดตรึกตรองถึงความผิดพลาดนั้น
  4. แม้ทุกวันนี้ Ray Dalio เองก็ยังดิ้นรนเพื่อตัดสินใจให้ดีที่สุด ยังคงทำผิดพลาด และเรียนรู้หลักการใหม่ ๆ ตลอดเวลา
  5. ชีวิตเหมือนการล่องไปในสายน้ำ ที่เราไม่สามารถหนีอุปสรรคกลางน้ำได้ แต่เราสามารถเลือกวิธีรับมือกับอุปสรรคได้ เราอาจจะเลือกวิธีรับที่ผิด แต่เราจะได้เรียนรู้ที่จะไม่ผิดซ้ำในอนาคต
  6. ทั้งหมดเริ่มต้นที่การยอมรับความจริง และหาวิธีรับมือกับมัน

(ถึงจุดนี้ ใครยังไม่ได้กดดูคลิปตอนที่ 1 แนะนำให้กดดูด้วยนะครับ และจะเตือนแบบนี้ไปทุกตอน เพราะอยากให้ดูกันจริง ๆ เนื่องจากทั้ง animation และคำบรรยาย มีความลึกซึ้งกว่าที่สรุปมาหลายเท่าครับ)

ตอนที่ 2: Embrace Reality and Deal With It (ยอมรับความจริงและเผชิญหน้ากับมัน)

  1. Ray Dalio อยากมีชีวิตที่ยิ่งใหญ่ เขาจึงกลัวการมีชีวิตที่น่าเบื่อแสนธรรมดามากกว่าที่จะกลัวความล้มเหลว และเนื่องจากช่วงแรกของชีวิตเขาไม่ได้มีเงินมากนัก ไม่มีอะไรจะเสีย เขาจึงตัดสินใจได้ไม่ยากที่จะเลือกออกไปเผชิญความท้าทาย
  2. ตั้งแต่เด็กมา เขาอยากได้อะไรก็ลงมือทำ แล้วก็ล้มเหลว แล้วก็ลองทำใหม่ แต่ทุกครั้งที่พลาด ก็ได้เรียนรู้ พลาดน้อยลง และค้นพบว่า “(การรู้และยอมรับ) ความเป็นจริง” เป็นพื้นฐานสำคัญของสร้างผลลัพธ์ที่ดี (Truth is essential foundation of producing good outcomes)
  3. ความเป็นจริงในธรรมชาตินั้นมีอยู่แล้ว เราไม่ได้สร้างมันขึ้นมาใหม่ การเข้าใจ ยอมรับ และนำความจริงมาใช้ประโยชน์ ทำให้ Ray Dalio ประสบความสำเร็จอย่างมาก
  4. การมองโลกตามความจริง ไม่ได้แปลว่าความฝันจะไม่มีทางเป็นจริง แต่กลับกันอย่างสิ้นเชิง เมื่อเรามีความฝันที่จะทำบางสิ่งให้สำเร็จ แล้วเข้าใจความจริงของโลก บวกด้วยความพยายามอุตสาหะ ชีวิตก็มีโอกาสประสบความสำเร็จได้ (Dreams + Reality + Determination = A Successful Life)
  5. ความสำเร็จในชีวิตของแต่ละคน ไม่จำเป็นต้องมีนิยามเดียวกัน แต่ทุกคนต้องเรียนรู้จากปัญหา จากความผิดพลาด จากจุดอ่อน จากความจริง โดยเฉพาะความจริงแบบที่เราไม่อยากให้เป็นจริงมากที่สุด
  6. ถ้ามองปัญหาเป็นเกมส์ เราจะรับมือได้ดีขึ้น และเกิดเป็น “หลักการ” ในการจัดการปัญหาเดิมในอนาคตได้ดีขึ้น
  7. ปัญหา + การคิดใคร่ครวญ = การแก้ปัญหาได้และชีวิตที่ก้าวหน้าต่อได้ (ข้อนี้มีความคล้ายอิทธิบาท 4 – TIF)
  8. ซึ่งการคิดใคร่ครวญปัญหา แบ่งเป็น 5 ขั้นตอนง่าย ๆ ซึ่งจะเล่าในตอนถัดไป

(ถึงจุดนี้ ใครยังไม่ได้กดดูคลิปตอนที่ 2 แนะนำให้กดดูก่อนครับ)

ตอนที่ 3: The Five Step Process (5 ขั้นตอน)

  1. Ray Dalio ค้นพบ 5 ขั้นตอนในการนำความผิดพลาดมาพลิกให้เป็นความสำเร็จ ซึ่ง 5 ขั้นตอนนั้นได้แก่
    1. Goals: กำหนดเป้าหมายในชีวิต และลงมือทำ
    2. Problems: เผชิญปัญหา และยังคงมุ่งมั่นต่อเป้าหมาย ซึ่งในขั้นตอนนี้มักพบความล้มเหลวระหว่างทาง
    3. Diagnosis: ใคร่ครวญหาสาเหตุของปัญหา อย่างรัดกุม ไม่ด่วนสรุป
    4. Design: ออกแบบ/วางแผนการแก้ปัญหา
    5. Do it: เมื่อเจอปัญหา เข้าใจสาเหตุ และเห็นทางแก้ ก็ลงมือทำ
  2. ชีวิตที่ประสบความสำเร็จ คือการเดินตาม 5 ขั้นตอนดังกล่าวซ้ำแล้วซ้ำเล่า คือวิวัฒนาการส่วนตัวของแต่ละคน และ 5 ขั้นตอนนี้ก็เป็นไปตามธรรมชาติของโลก
  3. และเมื่อใช้ชีวิตไปเรื่อย ๆ จะพบว่า อุปสรรคในชีวิตจะไม่ได้ง่ายขึ้น เพราะเมื่อเราเก่งขึ้น เราจะเผชิญโจทย์ที่ยากขึ้น
  4. แต่ละคนทำตาม 5 ขั้นตอนได้เก่งไม่เท่ากัน และเมื่อเราเดินขึ้นมาไกล เผชิญปัญหาที่ยากขึ้น เมื่อเราพลาด ก็อาจจะเกิดความเสียหายหนักขึ้นเช่นกัน
  5. Ray Dalio เองก็เคยประสบภาวะนี้ในช่วงปี พ.ศ. 2525 ซึ่งจะอธิบายต่อไปในตอนหน้า

(ถึงจุดนี้ ใครยังไม่ได้กดดูคลิปตอนที่ 3 แนะนำให้กดดูก่อนครับ)

ตอนที่ 4: The Abyss (ก้นเหว)

  1. ในปี พ.ศ. 2525 Ray Dalio คาดการณ์อย่างมั่นใจว่าสหรัฐฯ จะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย เขาทั้งเก็งกำไรฝั่งขาลง และพร่ำบอกผู้คนไปทั่ว แต่ปรากฎว่าเขาคาดการณ์ผิด เศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังคงเติบโตยาวนานต่อเนื่อง 18 ปี ทำให้เขาและบริษัท Bridgewater ขาดทุนอย่างหนัก ต้องปลดพนักงานออกหมด เขาเองเหลือเงินไม่ถึง $4,000 และต้องขอเงินพ่อมาจุนเจือค่าใช้จ่ายต่าง ๆ แถมยังเสียหน้าอย่างมากต่อสาธารณชน
  2. เขาถามตัวเองว่า หรือควรกลับไปทำงานประจำเหมือนคนอื่น ๆ ใส่สูทผูกไทด์ เดินทางไปกลับที่ทำงาน แต่เมื่อใคร่ครวญถึงเป้าหมายชีวิต เขาไม่สามารถทำแบบนั้นได้ เพราะมันเป็นชีวิตที่เขาไม่อยากได้
  3. เขาจึงไม่ยอมให้ความผิดพลาด(ครั้งใหญ่) มาเปลี่ยนชีวิตเขาไปจากเส้นทางที่ตั้งใจไว้ เพราะเขารู้ว่าเดี๋ยวมันก็จะผ่านไป

(ถึงจุดนี้ ใครยังไม่ได้กดดูคลิปตอนที่ 4 แนะนำให้กดดูก่อนครับ)

ตอนที่ 5: Everything is a Machine (ทุกสิ่งล้วนเป็นกลไก)

  1. ตั้งแต่บิ๊กแบง (Big Bang) กำเนิดจักรวาล การรวมตัวเป็นแกแลกซี การเกิดขึ้นของระบบสุริยจักรวาลของเรา ก่อเกิดเป็นโลก พื้นดิน พื้นน้ำ ระบบนิเวศน์ เศรษฐกิจ ตลาด และพวกเราแต่ละคน หรือแม้จะมองไปถึงกายภาคของมนุษย์ ระบบไหวเวียนโลหิต ระบบประสาท ทั้งหมดนี้มีลักษณะเป็นกลไก ที่ก่อร่างให้เกิดความนึกคิด ความฝัน และอารมณ์ของเรา
  2. แต่ละคนเป็นฟันเฟืองเล็ก ๆ ในช่วงเวลาเล็ก ๆ ของภาพรวม และในภาพรวมจะมีวัฎจักรของมัน
  3. เหตุการณ์ต่าง ๆ ในชีวิตล้วนเป็นวัฎจักร การมีลูก การศึกษาเล่าเรียน แต่บางทีเราหลงคิดว่ามันเป็นเหตุการณ์แค่ครั้งคราว จึงไม่ได้ใช้ “หลักการ” พิจารณาอย่างถี่ถ้วน
  4. แต่หากสามารถมองสิ่งต่าง ๆ ในโลกเป็นวัฎจักรที่มีรูปแบบคล้าย ๆ กัน เราจะเห็นความสัมพันธ์ของเหตุและผล และเราก็จะสามารถสร้าง “หลักการ” ที่ดีขึ้นได้
  5. คนส่วนใหญ่มักมองว่า “อนาคตคือสิ่งที่จะเปลี่ยนไปเล็กน้อยจากปัจจุบัน” นั่นเพราะคนส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับประวัติศาสตร์ในระยะสั้น ๆ ที่เพิ่งผ่านมา แต่ไม่ได้ย้อนไปดูประวัติศาสตร์ระยะยาวที่เคยเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าก่อนช่วงอายุเรา
  6. Ray Dalio ค้นพบว่า การที่เขาคาดการณ์ผิดว่าจะเกิดเศรษฐกิจถดถอยครั้งใหญ่ในสหรัฐฯ ก็เพราะเขาเคยมองประวัติศาสตร์แค่ระยะสั้น ๆ แต่เมื่อเขามองย้อนไปไกลขึ้น เขาเชื่อว่าต่อไปในอนาคตจะช่วยเขาให้ตัดสินใจได้ดีขึ้น
  7. ความเสี่ยง (โอกาสที่จะล้มเหลว) กับ โอกาสที่จะสำเร็จ เป็นของคู่กัน การมองโอกาสทั้งสองด้านอย่างสมดุล ช่วยให้ชีวิตมีโอกาสประสบความสำเร็จมากขึ้น
  8. เกือบทุกคนจะเจอ 2 ทางเลือกในชีวิต ระหว่าง อยู่ไปแบบเดิมแล้วมีชีวิตที่น่าเบื่อ กับ การเดินผ่านป่ารกชัฎที่อันตรายเพื่อหวังประสบความสำเร็จ ซึ่งการเลือกใช้ชีวิตแบบหลัง ก็ยังต้องเจออุปสรรคที่ใหญ่สุดถึง 2 ประการ ซึ่งจะอธิบายในตอนถัดไป

(ถึงจุดนี้ ใครยังไม่ได้กดดูคลิปตอนที่ 5 แนะนำให้กดดูก่อนครับ)

ตอนที่ 6: Your Two Biggest Barriers (2 อุปสรรคอันยิ่งใหญ่ที่สุด)

  1. ตราบใดที่ Ray Dalio ยังพอจะมีปัญญาจ่ายค่าเช่าบ้าน ซื้อข้าวกิน จ่ายค่าเทอมลูก เขาก็ยังจะรับความเสี่ยงต่อไป เขาพร้อมที่จะเดินฝ่าป่าทึบ เพื่อไขว่คว้าชีวิตที่ดีที่สุดที่จะเป็นไปได้
  2. ซึ่งความผิดพลาดครั้งใหญ่ในการคาดการณ์เศรษฐกิจถดถอย (ซึ่งไม่เกิดขึ้น) ช่วยให้เขารู้จักกลัวความผิดพลาด และเขาเรียนรู้ว่าอุปสรรค 2 ประการที่ยิ่งใหญ่ในการเดินหน้าสู่ความท้ายก็คือ 1) ความทนงตัว และ 2) ความไม่รู้ว่าไม่รู้
  3. ความทนงตัว นับเป็นเรื่องปกติในการทำงานของสมองมนุษย์ที่ให้ความสำคัญกับ “สิ่งที่เราคิดว่าถูกต้อง” มากกว่า “สิ่งที่เป็นความจริง” เราจึงโน้มเอียงไปสู่การเชื่อมั่นความคิดตัวเองโดยไม่ได้ตรวจสอบความเชื่อนั้นบนพื้นฐานความจริง
  4. นอกจากนั้น เรามักไม่ชอบพิจารณาความผิดพลาดและจุดอ่อนของตัวเอง ใครทักก็มักโกรธและไม่รับฟัง ซึ่งนำมาสู่การตัดสินใจที่แย่ ไม่ได้เรียนรู้อะไร และเป็นการจำกัดศักยภาพในตัวเอง
  5. ความไม่รู้ว่าไม่รู้ ก็เป็นเรื่องปกติอีกประการของมนุษย์ ที่คิดว่าตัวเองรู้ทุกเรื่อง เข้าใจทุกแง่มุม ทั้ง ๆ ที่ไม่มีใครรู้ได้รอบขนาดนั้น
  6. แต่ความจริงแล้ว มนุษย์แต่ละคนมีความสามารถต่างกัน ร้องเพลงเสียงสูงต่ำได้ไม่เท่ากัน บางคนตาบอดสี เช่นเดียวกันกับความสามารถในการมองเห็นและเข้าใจสิ่งต่าง ๆ ในโลกที่แต่ละคนมีไม่เหมือนกัน
  7. หากเรามองโลกแบบผิวเผิน ไม่คิดอย่างลึกซึ้งบนพื้นฐานความจริง เราก็จะไม่เห็นจุดอ่อนของตัวเอง แล้วก็จะล้มเหลวในที่สุด

(ถึงจุดนี้ ใครยังไม่ได้กดดูคลิปตอนที่ 6 แนะนำให้กดดูก่อนครับ)

ตอนที่ 7: Be Radically Open-Minded (จงเปิดใจอย่างหมดใจ)

  1. สิ่งที่ Ray Dalio ใฝ่หามาตลอด คือการได้กำไรอย่างเป็นกอบเป็นกำ โดยที่ไม่ต้องเสี่ยงอย่างมาก ซึ่งเขาค้นพบว่า การจะทำได้แบบนั้น จะต้องเลิกแสวงหาความสุขจากการได้รับความยอมรับว่าทำถูกต้อง แต่ให้แสวงหาความสุขจากการได้เรียนรู้ว่าสิ่งใดเป็นความจริง (Replace the joy of being proven right with the joy of learning what is true)
  2. และการรับฟังความคิดของผู้อื่น จะช่วยให้เราค้นพบความจริงได้มากขึ้น
  3. การเดินฝ่าป่ารกทึบไปพบความสำเร็จ จะเป็นจริงได้ด้วยการเปิดรับฟังมุมมองของผู้รู้ ที่มองโลกต่างไปจากเรา และบางครั้งเมื่อเราพลาด ผู้รู้มักจะชี้แนวทางที่เราให้คิดไม่ถึงให้เราใช้ปรับปรุงตัวเองได้
  4. เมื่อก่อน Ray Dalio จะตัดสินใจจากแนวคิดที่เขาเองคิดว่าดีที่สุด แต่ตอนนี้เขาจะขอคำปรึกษาจากผู้รู้จริงที่กล้าแนะนำอย่างตรงไปตรงมา
  5. เมื่อเราให้อิสระผู้คนในการนำเสนอความเห็น ซึ่งหลายครั้งอาจมีความเห็นที่ขัดแย้งกัน แต่เราก็จะเห็นแนวทางที่ดีที่สุดท่ามความแนวคิดเหล่านั้น
  6. ชีวิตมีทั้งโอกาสและความเสี่ยง แต่หากเราพิจารณามันโดยปราศจากความทนงตัวและมีความเข้าใจว่าเราไม่ได้รู้ทุกเรื่อง เราก็จะบริหารโอกาสนั้นได้อย่างดียิ่งขึ้น

(ถึงจุดนี้ ใครยังไม่ได้กดดูคลิปตอนที่ 7 แนะนำให้กดดูก่อนครับ)

ตอนที่ 8 (ตอบจบ) : Struggle Well (จงดิ้นรน .. อย่างฉลาด)

  1. Ray Dalio ได้รู้จักบุคคลผู้ประสบความสำเร็จจำนวนมาก ซึ่งทุกคนล้วนเคยดิ้นรนผ่านความยากลำบาก ทุกคนล้วนมีจุดอ่อน และเขาได้เรียนรู้ว่า การฝ่าฟันเพื่อจุดหมายใหญ่อาจนำมาซึ่งความล้มเหลวที่ใหญ่พอกัน แต่นั้นเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการ ซึ่งบางคนก็เข้าใจ และใช้แนวทาง 5 ขั้นตอนแก้ปัญหาไปได้ แต่บางคนก็ล้มเลิก
  2. ความจริงการประสบความสำเร็จอาจเป็นแค่เหยื่อล่อให้เราประสบความสำเร็จสูงขึ้น เป็นเหยื่อล่อให้เราพัฒนาตัวเอง
  3. แต่ตอนนี้ (ในวัย 69 ปี ณ ขณะนั้น) Ray Dalio ไม่ได้อยากเดินฝ่าป่ารกเพียงลำพังอีกต่อไป แต่อยากอยู่ร่วมกับทีมงานที่ยอดเยี่ยม และกลายเป็นว่าเป้าหมายของเขา กลายเป็นการช่วยพาทีมงานให้มีชีวิตที่ยิ่งใหญ่ด้วยเช่นกัน แทนที่จะใฝ่หาความสำเร็จให้เฉพาะตัวเขาเอง
  4. เราทุกคนล้วนดิ้นรนอยู่เสมอในเรื่องที่ต่างกันในเวลาที่ต่างกัน จนกว่าเราจะจากโลกนี้ไปและกลายเป็นส่วนหนึ่งของวิวัฒนาการ นี่คือกลไกของทุกสิ่งอย่าง ซึ่งเป็นวัฎจักรหมุนวนผ่านกาลเวลา เมื่อกลไกสลายลง ก็จะกลับไปเป็นส่วนหนึ่งของกลไกใหม่ที่เกิดขึ้นมา
  5. เมื่อรู้แบบนี้เราอาจจะเศร้า เพราะเราอาจจะคุ้นเคยและหวงแหนกลไกของเรา (ร่างกายของเรา ผู้คนที่เรารัก บริษัทของเรา) แต่ถ้าเรามองให้กว้างขึ้น จะเห็นว่าวัฎจักรนี้มีความงดงามตามธรรมชาติของมัน
  6. สุดท้ายนี้ คุณต้องตัดสินใจเพื่อตัวคุณเอง ว่าจะพัฒนาตัวเองไปอย่างไร สิ่งไหนจะทำให้คุณพอใจ และคุณมีอิสระเต็มที่ในการเลือกสิ่งที่คุณจะทำให้กับตัวเอง เขาหวังเพียงให้คุณมีความกล้าที่จะดิ้นรนและพัฒนาตัวเองอย่างฉลาด ให้คุณมีชีวิตดีเท่าที่จะเป็นไปได้

— All translation rights reserved —

(บทความนี้ใช้เวลาแปลและเรียบเรียงประมาณ 3.5 ชั่วโมง)