Financial Markets Update

14 เม.ย. 63| แนวโน้ม SET Index และภาวะลงทุนรอบโลก

  • SET Index — วันนี้บวกต่อเนื่องอีก 19.57 จุด มาอยู่ที่ 1,256 จุด แนวโน้มระยะสั้นกลับเป็นขาขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่ 14 (ตั้งแต่ระดับดัชนี 1,080 จุด) ซึ่งคือครึ่งเดือนมาแล้ว และที่สำคัญ วันนี้แนวโน้มระยะกลางก็พลิกเป็นขาขึ้นด้วยแล้วเช่นกัน หลังจากเป็นขาลงมาตั้งแต่ปลายเดือน ม.ค. 63 แต่เนื่องจากแนวโน้มระยะกลางเราสรุปจบกันที่ปลายสัปดาห์ และวันนี้ก็ยังเพิ่งวันอังคาร จึงถือว่าแนวโน้มระยะกลางที่เป็นขาขึ้น ยังไม่เป็นทางการ รอดูอัปเดตวันพฤหัสบดีอีกที .. โดยที่แนวโน้มขาลง/ขาขึ้น ให้ดูที่ทิศทางลูกศร MACD และแถบสีเขียว (แนวโน้มดีต่อนักลงทุน)/สีแดง (แนวโน้มแย่ต่อนักลงทุน) ในกราฟ
  • การซื้อขายสุทธิในตลาดหุ้นของนักลงทุนกลุ่มต่าง ๆ — ในภาพรวม ต่างชาติยังเป็นฝั่งขายสุทธิต่อเนื่องมาตั้งแต่ปีก่อน ขายได้ขายดี
  • ค่าเงินบาทเทียบ USD — ค่าเงินบาททรงตัวที่ 32.72 THB/USD และแนวโน้มระยะกลางยังคงเป็นฝั่งอ่อนค่ามาตั้งแต่ พ.ย. 62
  • ราคาน้ำมันดิบ — สัปดาห์นี้ย่อหลังหลังจาก 2 สัปดาห์ก่อนฟื้นแรง แนวโน้มยังเป็นขาลงแรงตามอุปสงค์การบริโภคพลังงานที่หายไป
  • ทองคำ — บวกต่อเนื่อง แนวโน้มยังเป็นขาขึ้น

  • Snapshot ตลาดหุ้นที่สำคัญ (ข้อมูลจาก tradingeconomics.com / cnbc.com) — ส่วนใหญ่บวก ฝรั่งสหรัฐฯ เหลืออีกประมาณครึ่งทางหากจะไปถึงจุดสูงสุดเดิมของปี ฝรั่งยุโรปเหลือเกินครึ่ง
  • Snapshot ตลาดตราสารหนี้ไทย (ข้อมูลจาก ThaiBMA.or.th) — ราคาเพิ่มขึ้นทั้งพันธบัตรรัฐและเอกชน โดยที่ ราคา vs ผลตอบแทน ของตราสารหนี้ จะแปรผกผันกัน (อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับกลไกอัตราดอกเบี้ยและราคาตราสารหนี้ได้ ที่นี่)

  • สัญญาณขาขึ้นขาลงที่อยู่ในกราฟ (ตัวหนังสือ MACD พร้อมหัวลูกศร) มาจากเครื่องมือ MACD ซึ่งสัญญาณนั้นเป็น “ผล” จาก “เหตุปัจจัยต่าง ๆ” เท่านั้น ไม่ว่าจะเป็น การเมืองไทย การเมืองโลก เศรษฐกิจไทย เศรษฐกิจโลก ภาวะธุรกิจตลอดจนข่าวของบริษัทเอง ฯลฯ … เราจึงดูกราฟเพื่อให้รู้ว่าปัจจัยต้นเหตุต่าง ๆ การคาดการณ์ต่าง ๆ ในช่วงนี้ ส่งผลต่อแนวโน้มราคาในระยะนี้ต่อไปถึงอนาคต “ใกล้ ๆ” อย่างไรบ้าง … แต่เราไม่สามารถเอากราฟซึ่งเป็น “ผล” กลับไปพยากรณ์ “เหตุ” ในอนาคตไกล ๆ ได้ ไม่ว่าจะใช้เครื่องมืออะไร หรือแนวเทคนิกแบบไหนก็ตาม
  • ข้อมูลตลาดหุ้นจะใช้ SET Index เป็นตัวแทน เพื่อให้นำเสนอข้อมูลภาพรวมได้จริงในทางปฏิบัติ ภาวะของหุ้นรายตัวอื่น ๆ อาจต่างไปจากภาวะของตลาดโดยรวมก็ได้ นักลงทุนจึงควรพิจารณาสถานะของหุ้นรายตัวที่นักลงทุนสนใจ ควบคู่กันไป