Financial Markets Update

24 ก.ย. 63 | แนวโน้ม SET Index และภาวะลงทุนรอบโลก

SET Index — ปิดลบ 16.55 จุด ลงมาอยู่ที่ระดับ 1,247.46 จุด // แนวโน้มระยะสั้น และ แนวโน้มระยะกลาง ยังเป็นขาลงแรง // แนวโน้มขาลง & ขาขึ้น ให้ดูที่ทิศทางลูกศร MACD และแถบสีเขียว (แนวโน้มดีต่อนักลงทุน)/สีแดง (แนวโน้มแย่ต่อนักลงทุน) ในกราฟด้านล่างนี้

  • การซื้อขายสุทธิในตลาดหุ้นของนักลงทุนกลุ่มต่าง ๆ — ในภาพรวม ต่างชาติยังเป็นฝั่งขายสุทธิต่อเนื่องมาตั้งแต่ปีก่อน ซึ่งเฉพาะปีนี้ ขายสุทธิรวมกันประมาณ 2.7 แสนล้านบาทแล้ว และวันนี้ต่างชาติก็ขายสุทธิอีก 1.3 พันล้านบาท
  • ค่าเงินบาทเทียบ USD — อ่อนค่าแรง ไปอยู่ที่ระดับ 31.60 THB/USD แนวโน้มระยะกลางกลับเป็นด้านอ่อนค่า เป็นลบต่อการลงทุนในประเทศ (ถือสินทรัพย์ไทยแล้วมีมูลค่าลดลงในเทอมของเงินสกุลต่างประเทศ)
  • ทองคำ — 2 สัปดาห์ก่อนเริ่มฟื้นตัว แต่มาสัปดาห์นี้โดนเทแรง หลุดระดับ $1,900 ลงมาเรียบร้อย แนวโน้มจึงยังเป็นขาลง
  • ราคาน้ำมันดิบ — อ่อนตัวลงจากสัปดาห์ก่อน แนวโน้มระยะกลางยังเป็นขาลง

  • Snapshot ตลาดหุ้นที่สำคัญ เย็นนี้ (ข้อมูลจาก tradingeconomics.com / cnbc.com) — สหรัฐฯ ฟื้นตัว ยุโรปและเอเซียลบ
  • snapshot ตลาดตราสารหนี้ไทย (ข้อมูลจาก ThaiBMA.or.th) — ราคาตราสารหนี้ภาครัฐและเอกชน บวกเล็กน้อย ซึ่งจะสะท้อนไปยังราคากองทุนตราสารหนี้ประเภทต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง .. โดยที่ ราคา vs ผลตอบแทน ของตราสารหนี้ จะแปรผกผันกัน (อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับกลไกอัตราดอกเบี้ยและราคาตราสารหนี้ได้ ที่นี่)

บอกกล่าว

  • สัญญาณขาขึ้นขาลงที่อยู่ในกราฟ (ตัวหนังสือ MACD พร้อมหัวลูกศร) มาจากเครื่องมือ MACD ซึ่งสัญญาณนั้นเป็น “ผล” จาก “เหตุปัจจัยต่าง ๆ” เท่านั้น ไม่ว่าจะเป็น การเมืองไทย การเมืองโลก เศรษฐกิจไทย เศรษฐกิจโลก ภาวะธุรกิจตลอดจนข่าวของบริษัทเอง ฯลฯ … เราจึงดูกราฟเพื่อให้รู้ว่าปัจจัยต้นเหตุต่าง ๆ การคาดการณ์ต่าง ๆ ในช่วงนี้ ส่งผลต่อแนวโน้มราคาในระยะนี้ต่อไปถึงอนาคต “ใกล้ ๆ” อย่างไรบ้าง … แต่เราไม่สามารถเอากราฟซึ่งเป็น “ผล” กลับไปพยากรณ์ “เหตุ” ในอนาคตไกล ๆ ได้ ไม่ว่าจะใช้เครื่องมืออะไร หรือแนวเทคนิกแบบไหนก็ตาม
  • อ่านเพิ่มเติมเรื่อง MACD ได้ >> ที่นี่ (หลักการ) และ ที่นี่ (การดูแนวโน้ม)
  • ข้อมูลตลาดหุ้นจะใช้ SET Index เป็นตัวแทน เพื่อให้นำเสนอข้อมูลภาพรวมได้จริงในทางปฏิบัติ ภาวะของหุ้นรายตัวอื่น ๆ อาจต่างไปจากภาวะของตลาดโดยรวมก็ได้ นักลงทุนจึงควรพิจารณาสถานะของหุ้นรายตัวที่นักลงทุนสนใจ ควบคู่กันไป