Financial Markets Update

14 ต.ค. 63 | แนวโน้ม SET Index และภาวะลงทุนรอบโลก

SET Index — ปิดลบ 9.44 จุด ลงมาอยู่ที่ระดับ 1,263.99 จุด // แต่ แนวโน้มระยะสั้น (ดูภาพหลายวันถึงหลายสัปดาห์) ยังอยู่ขาขึ้นมาตั้งแต่วันที่ 6 ต.ค. 63 แต่ แนวโน้มระยะกลาง (ดูภาพหลายสัปดาห์ถึงหลายเดือน) ก็ยังคงเป็นขาลงต่อเนื่องจากเดือนก่อน ถือเงินสดยังได้เปรียบ // แนวโน้มขาลง & ขาขึ้น ให้ดูที่ทิศทางลูกศร MACD และแถบสีเขียว (แนวโน้มดีต่อนักลงทุน)/สีแดง (แนวโน้มแย่ต่อนักลงทุน) ในกราฟด้านล่างนี้

  • การซื้อขายสุทธิในตลาดหุ้นของนักลงทุนกลุ่มต่าง ๆ — ในภาพรวม ต่างชาติยังเป็นฝั่งขายสุทธิต่อเนื่องมาตั้งแต่ปีก่อน ซึ่งเฉพาะปีนี้ ขายสุทธิรวมกันประมาณ 2.8 แสนล้านบาทแล้ว และวันนี้ต่างชาติก็ขายสุทธิอีก 2.7 พันล้านบาท
  • ค่าเงินบาทเทียบ USD — ทรงตัวที่ระดับ 31.17 THB/USD แนวโน้มระยะกลางเป็นฝั่งแข็งค่า เป็นปัจจัยเริ่มการลงทุนในประเทศ (ถือสินทรัพย์ไทยมีมูลค่าเพิ่มขึ้นอัตโนมัติในเทอมของเงินสกุลต่างชาติ)
  • ราคาน้ำมันดิบ — ทรงตัวจากสัปดาห์ก่อนที่บวกแรง แนวโน้มยังเป็นขาขึ้น
  • ทองคำ — หลังจากหล่นลงมาต่ำกว่าระดับ $2,000 ซึมยาว แนวโน้มระยะกลางยังเป็นขาลง

  • Snapshot ตลาดหุ้นที่สำคัญ เย็นนี้ (ข้อมูลจาก tradingeconomics.com / cnbc.com) — สหรัฐฯ บวก ยุโรปลบ แต่ก็เล็กน้อย
  • snapshot ตลาดตราสารหนี้ไทย (ข้อมูลจาก ThaiBMA.or.th) — ราคาตราสารหนี้ภาครัฐและเอกชน บวกเล็กน้อย ซึ่งจะสะท้อนไปยังราคากองทุนตราสารหนี้ประเภทต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง .. โดยที่ ราคา vs ผลตอบแทน ของตราสารหนี้ จะแปรผกผันกัน (อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับกลไกอัตราดอกเบี้ยและราคาตราสารหนี้ได้ ที่นี่)

บอกกล่าว

  • สัญญาณขาขึ้นขาลงที่อยู่ในกราฟ (ตัวหนังสือ MACD พร้อมหัวลูกศร) มาจากเครื่องมือ MACD ซึ่งสัญญาณนั้นเป็น “ผล” จาก “เหตุปัจจัยต่าง ๆ” เท่านั้น ไม่ว่าจะเป็น การเมืองไทย การเมืองโลก เศรษฐกิจไทย เศรษฐกิจโลก ภาวะธุรกิจตลอดจนข่าวของบริษัทเอง ฯลฯ … เราจึงดูกราฟเพื่อให้รู้ว่าปัจจัยต้นเหตุต่าง ๆ การคาดการณ์ต่าง ๆ ในช่วงนี้ ส่งผลต่อแนวโน้มราคาในระยะนี้ต่อไปถึงอนาคต “ใกล้ ๆ” อย่างไรบ้าง … แต่เราไม่สามารถเอากราฟซึ่งเป็น “ผล” กลับไปพยากรณ์ “เหตุ” ในอนาคตไกล ๆ ได้ ไม่ว่าจะใช้เครื่องมืออะไร หรือแนวเทคนิกแบบไหนก็ตาม
  • อ่านเพิ่มเติมเรื่อง MACD ได้ >> ที่นี่ (หลักการ) และ ที่นี่ (การดูแนวโน้ม)
  • ข้อมูลตลาดหุ้นจะใช้ SET Index เป็นตัวแทน เพื่อให้นำเสนอข้อมูลภาพรวมได้จริงในทางปฏิบัติ ภาวะของหุ้นรายตัวอื่น ๆ อาจต่างไปจากภาวะของตลาดโดยรวมก็ได้ นักลงทุนจึงควรพิจารณาสถานะของหุ้นรายตัวที่นักลงทุนสนใจ ควบคู่กันไป