(Special Content) ในเดือนกันยายนที่ผ่านมา หลายท่านน่าจะได้ติดตามการเปิดตัวสินค้าใหม่ของ Apple โดยเฉพาะ iPhone 14 ที่มีกระแสแรงตั้งแต่วันแรกของการเปิดจอง จนต้องเลื่อนวันส่งมอบออกไปมากกว่า 1 เดือน สอดคล้องกับผลการดำเนินงานเพียง 9 เดือนที่ผ่านมา Apple มีรายได้จากยอดขายและบริการถึง 245,241 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 8.9 ล้านล้านบาท) และกำไรกว่า 79,082 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 2.8 ล้านล้านบาท) เห็นอย่างนี้แล้วหลายท่านน่าจะเกิดคำถามในใจว่าถ้าอยากจะเป็นเจ้าของหุ้นบริษัทระดับโลกเช่นนี้จะต้องใช้เงินเท่าไหร่ (อ้างอิงราคาหุ้นและอัตราแลกเปลี่ยนวันที่ 18 ต.ค. 2565) ถ้าต้องการซื้อหุ้น Apple (NASDAQ: AAPL) จะต้องใช้เงินราว 5,500 บาท/หุ้น หรือถ้าต้องการลงทุนอิงกระแส Metaverse ในบริษัท Mata (NASDAQ: META) ก็จะต้องใช้เงินราว 5,100 […]
การลงทุนในหลักทรัพย์ต่างประเทศ นอกจากจะช่วยกระจายความเสี่ยงจากการลงทุน (Diversify) เพียงแค่ในประเทศแล้ว ยังช่วยเพิ่มโอกาสในการรับผลตอบแทนที่ดียิ่งขึ้น จากการที่ผู้ลงทุนสามารถเข้าถึงหลักทรัพย์ที่มีอัตราการเติบโตสูง และเข้าถึงเทรนด์การลงทุนใหม่ ๆ หรือ อุตสาหกรรมที่มีจำกัดหรือไม่มีในไทย เช่น หุ้นเทคโนโลยีและนวัตกรรมระดับโลก แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าการจะเข้าไปลงทุนในบริษัทอย่าง Tesla Apple หรือ Amazon ก็ไม่สามารถทำได้สะดวกนัก จากข้อจำกัดหลายอย่าง ทั้งขั้นตอนการเปิดบัญชีที่ยุ่งยาก เงินลงทุนขั้นต่ำที่กำหนดไว้ค่อนข้างสูง การแลกเปลี่ยนสกุลเงินต่างประเทศ ค่าธรรมเนียมการลงทุน และการจัดการภาษี ซึ่งอาจจะไม่เหมาะกับผู้ลงทุนที่ไม่มีประสบการณ์ หรือมีเงินลงทุนเริ่มต้นจำกัด DRx ผลิตภัณฑ์ลงทุนใหม่จากตลาดหลักทรัพย์ฯ เป็นหนึ่งในทางเลือกที่ตอบโจทย์สำหรับผู้ลงทุนที่สนใจลงทุนในหลักทรัพย์ต่างประเทศ สามารถลงทุนได้ง่ายและสะดวกผ่านแอปฯ Streaming ด้วยสกุลเงินบาทได้โดยตรง ไม่ต้องวุ่นวายในการแลกเปลี่ยนเงิน และยังเหมาะกับผู้ลงทุนที่มีเงินลงทุนเริ่มต้นน้อย เนื่องจาก DRx ไม่มีข้อจำกัดจำนวนเงินลงทุนขั้นต่ำ เป็นทางเลือกการลงทุนโดยเฉพาะกับกลุ่มคนรุ่นใหม่ สามารถเข้าถึงหลักทรัพย์ต่างประเทศที่สนใจได้ง่ายขึ้น แถมยังมีโอกาสได้สิทธิประโยชน์ต่าง ๆ เหมือนการลงทุนในหลักทรัพย์ต่างประเทศโดยตรง โดยเร็ว ๆ นี้ DRx ที่จะเริ่มเปิดให้ซื้อขายในช่วงแรก ได้แก่ […]
Thailand Focus จัดขึ้นโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในทุกปี เพื่อนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับด้านเศรษฐกิจและตลาดทุนของประเทศไทย และเพื่อสร้างความมั่นใจต่อผู้ลงทุนทั่วโลก โดยในปีนี้ Thailand Focus 2022 ได้จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “THE NEW HOPE” เพื่อนำเสนอศักยภาพของเศรษฐกิจและตลาดทุนไทยที่สามารถฟื้นตัวได้ด้วยความยืดหยุ่นและเอาชนะความท้าทายต่างๆ ในช่วงสถานการณ์โรคระบาด ซึ่งภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมสามารถต่อยอดพัฒนาและปรับตัวให้เข้ากับโอกาสใหม่ๆ ตอกย้ำถึงศักยภาพของเศรษฐกิจและตลาดทุนไทยที่มีความความโดดเด่นและน่าสนใจ สำหรับการลงทุนในระยะยาว Thailand Focus 2022 มีเนื้อหาสัมมนาที่หลากหลายประเด็นทั้งในด้านเศรษฐกิจและนโยบายการเงินหลังวิกฤติโควิด-19 จากมุมมองของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย รวมถึงโอกาสการลงทุนในอุตสาหกรรมแห่งอนาคต รวมถึงแนวคิดการดำเนินธุรกิจที่ที่ยั่งยืนด้วยนวัตกรรม จากมุมมองของผู้บริหารของบริษัทชั้นนำ TIF สรุปเนื้อหาฉบับย่อจากทุกสัมมนาในงาน Thailand Focus 2022 ให้ติดตามได้ในบทความนี้ หากต้องการรับชมเนื้อหาย้อนหลังฉบับเต็มเพิ่มเติม สามารถเข้าชมได้ผ่านทาง https://www.set.or.th/thailandfocus/2022/ ภาพรวมความสำเร็จ ตอกย้ำศักยภาพขับเคลื่อนตลาดทุนและเศรษฐกิจไทยเดินหน้าต่อ ดร. ภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า “Thailand Focus 2022 : […]
หลายท่านที่เคยไปซูเปอร์มาร์เก็ต น่าจะคุ้นเคยเป็นอย่างดีกับแบรนด์ “เบทาโกร” หรือถ้าให้นึกถึงแบรนด์เนื้อหมู หรือเนื้อไก่ที่เน้นคุณภาพและความพรีเมียม “S-Pure” ก็น่าจะเป็นชื่อแรก ๆ ที่หลายท่านนึกถึงและน่าจะเคยซื้อมาบริโภค ทั้งสองแบรนด์ที่กล่าวมาเป็นส่วนหนึ่งของผลิตภัณฑ์จาก บมจ. เบทาโกร หรือ BTG ซึ่งผลิตภัณฑ์ของ “เบทาโกร” ไม่ได้มีเพียงแค่เนื้อหมู เนื้อไก่ ไข่ หรืออาหารแปรรูปเท่านั้น แต่ครอบคลุมทั้งธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมและอาหารแบบครบวงจร ตั้งแต่การผลิตอาหารสัตว์ การจำหน่ายพันธุ์สัตว์ การทำฟาร์ม การชำแหละและการแปรรูปเนื้อสัตว์ รวมทั้งโรงงานผลิตและแปรรูปอาหาร นอกจากนี้ยังมีร้านค้าที่เป็นช่องทางการจัดจำหน่ายของตัวเอง เช่น Betagro Shop และ Betagro Deli เรียกได้ว่าครอบคลุมตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ ธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมและอาหารถือเป็นหนึ่งในกลุ่มธุรกิจหลักที่ได้รับอานิสงส์จากการเปิดประเทศอย่างเต็มรูปแบบของไทย และจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจทั่วโลก โดยเร็ว ๆ นี้ “เบทาโกร” เตรียมที่จะระดมทุนผ่านการทำ IPO เข้าตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เพื่อสร้างศักยภาพการเติบโตอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน โดยมีแผนจะนำเงินที่ได้รับจากการระดมทุนไปใช้เป็นเงินทุนในการเข้าซื้อ หรือก่อสร้างฟาร์มและโรงงานแห่งใหม่ทั้งในและต่างประเทศ ใช้ปรับโครงสร้างเงินทุน รวมถึงใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนของบริษัท […]
ในปัจจุบันเกิดกระแสความไม่แน่นอนหลายด้าน ทั้งเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ซึ่งล้วนส่งผลกระทบโดยตรงต่ออุปสงค์และอุปทานของน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ ทำให้เกิดความท้าทายในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมพลังงาน ยกตัวอย่างเช่น นโยบายด้านสิ่งแวดล้อมของแต่ละประเทศที่ต้องการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิจนเป็นศูนย์ หรือ Net Zero Emissions ซึ่งในประเทศไทยเองก็ตั้งเป้าหมายที่จะบรรลุผลให้ได้ในปี พ.ศ. 2608 หรือการเข้าสู่ช่วงเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน (Energy Transition) ที่ขับเคลื่อนไปสู่การใช้พลังงานสะอาด และแนวโน้มการเติบโตของรถยนต์พลังงานไฟฟ้า (EV) รวมไปถึงการเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยีที่รวดเร็วที่ส่งผลให้พฤติกรรมการใช้ชีวิตของผู้คนเปลี่ยนแปลงไป ก็ล้วนเป็นหนึ่งในความท้าทายที่ผู้ประกอบธุรกิจอุตสาหกรรมด้านพลังงานต้องเผชิญ บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) (TOP) หนึ่งในผู้นำประกอบธุรกิจโรงกลั่นที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมสำเร็จรูป ได้เตรียมแผนกลยุทธ์รองรับการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว และเพื่อเตรียมพร้อมก้าวสู่องค์กร 100 ปีอย่างยั่งยืน ภายใต้แนวคิด Building on Our Strong Foundation โดยจะต่อยอดจากธุรกิจกลั่นน้ำมันซึ่งเป็นธุรกิจหลักที่แข็งแกร่ง ก้าวไปสู่ธุรกิจปิโตรเคมีและผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าสูง พร้อมกระจายผลิตภัณฑ์ขยายตลาดไปยังภูมิภาคที่มีความต้องการสูง และกระจายความเสี่ยงการลงทุนไปสู่ธุรกิจที่มีความผันผวนต่ำและลงทุนในธุรกิจใหม่ที่เป็น New S-Curve อาทิ โครงการพลังงานสะอาด (Clean […]
ปฏิเสธไม่ได้ว่าจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ส่งผลกระทบอย่างมากต่อเศรษฐกิจไทย โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยวและบริการซึ่งเป็นรายได้หลักของประเทศ ประกอบกับการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากรไทยที่เริ่มเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ทำให้ในภาพรวมอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังมีความผันผวนเพิ่มมากขึ้น หนึ่งในทางเลือกที่จะช่วยลดความเสี่ยง และเพิ่มโอกาสได้รับผลตอบแทนที่สูงขึ้นในระยะยาว คือการกระจายการลงทุนไปยังหลักทรัพย์ต่างประเทศ โดยเฉพาะในกลุ่มธุรกิจที่อยู่ในเมกะเทรนด์ ซึ่งมีศักยภาพในการเติบโตสูงในอนาคต อาทิหุ้นเทคโนโลยีและนวัตกรรม ซึ่งบางกลุ่มธุรกิจยังไม่มีในตลาดหุ้นไทย สอดคล้องกับสถิติของธนาคารแห่งประเทศไทย พบว่า นักลงทุนไทยมีแนวโน้มการลงทุนในหลักทรัพย์ต่างประเทศเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงกลางปี 2564 ที่ปริมาณการลงทุนเพิ่มสูงมากที่สุดในรอบกว่า 10 ปี แต่ปัจจุบัน การลงทุนในหลักทรัพย์ต่างประเทศยังคงมีข้อจำกัดและความยุ่งยากในการเข้าไปลงทุน ไม่ว่าจะเป็นขั้นตอนการเปิดบัญชีที่ไม่ได้ง่ายเหมือนการเปิดบัญชีหุ้นไทย กฎระเบียบการซื้อขายของแต่ละประเทศที่แตกต่างกัน การกำหนดจำนวนเงินลงทุนขั้นต่ำที่สูง รวมถึงความยุ่งยากในการแลกเปลี่ยนสกุลเงิน และโอนเงินระหว่างประเทศ ด้วยเหตุนี้ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย จึงได้มีนโยบายสนับสนุนการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่สามารถเชื่อมโยงการลงทุนในต่างประเทศผ่าน DR (Depositary Receipt) หรือ ตราสารแสดงสิทธิในหลักทรัพย์ต่างประเทศซึ่งจะช่วยให้นักลงทุนไทยสามารถเข้าถึงการลงทุนหุ้นในต่างประเทศ ได้สะดวกมากยิ่งขึ้น เสมือนการยกหุ้นต่างประเทศมาให้ซื้อขายได้ง่าย ๆ ผ่านตลาดหุ้นไทย DR จะมีรายละเอียด ความน่าสนใจ และความแตกต่างเมื่อเทียบกับการลงทุนในหุ้นต่างประเทศโดยตรงอย่างไร สามารถติดตามได้ในบทความนี้ ทำความรู้จัก DR DR […]
หากพูดถึง DW (Derivative Warrant) หรือ ใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ นักลงทุนส่วนใหญ่มักจะคุ้นเคยกับ DW ที่อ้างอิงกับหุ้นไทย หรือดัชนีหุ้นไทย จากลักษณะเฉพาะตัวที่สามารถสร้างผลตอบแทนได้ ไม่ว่าตลาดจะเป็นขาขึ้นหรือขาลง อีกทั้งยังใช้เงินลงทุนน้อยกว่า แต่สามารถสร้างผลตอบแทนได้มากกว่าการลงทุนจริงในหลักทรัพย์อ้างอิง ทำให้นักลงทุนนิยมใช้ DW เป็นเครื่องมือในการบริหารความเสี่ยงและเก็งกำไร ปัจจุบันนักลงทุนไทยมีการกระจายการลงทุนไปในหุ้นต่างประเทศเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย จึงได้มีนโยบายสนับสนุนการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่สามารถเชื่อมโยงการลงทุนในต่างประเทศ เพื่อเป็นทางเลือกให้กับนักลงทุนสามารถใช้เป็นเครื่องมือสำหรับลงทุนในหลักทรัพย์ต่างประเทศได้สะดวกยิ่งขึ้น ทำให้ในปัจจุบันนอกเหนือจาก DW ที่อ้างอิงกับหุ้นไทย และดัชนีหุ้นไทยแล้ว ยังมี DW ที่อ้างอิงกับดัชนีหุ้นต่างประเทศ อาทิ Hang Seng Index (HSI), S&P 500 Index (SPX) และดัชนีดาวโจนส์ (DJI) และล่าสุดทางตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้เริ่มเปิดซื้อขาย DW อ้างอิงหุ้นต่างประเทศเป็นครั้งแรก ประเดิมด้วย DW อ้างอิงหุ้นที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง ได้แก่ อาลีบาบา […]