• แนวโน้ม SET Index — ดัชนีร่วงลงเล็กน้อย แต่ก็เป็นการร่วงต่อเนื่องจากสัปดาห์ก่อน ทำให้แนวโน้มระยะสั้นเป็นขาลงอีกแล้ว (จะเห็นว่าแนวโน้มระยะสั้นช่วงนี้ขึ้น ๆ ลง ๆ บ่อย ใครเบื่อ จะถอนออกมาดูแนวโน้มระยะกลางไปพลางก็ได้) ซึ่งแนวโน้มระยะกลางก็ยังเป็นขาลงอยู่เช่นกัน  (ขาลง/ขาขึ้น ให้ดูที่ทิศทางลูกศร MACD ในกราฟ)
• แนวโน้มค่าเงินบาท — ทรงตัวที่ระดับ 31.4x THB/USD แต่จากการที่แข็งค่าอยู่ที่ระดับนี้ติดต่อกันหลายสัปดาห์แล้ว ทำให้แนวโน้มพลิกกลับเป็นด้านอ่อนค่า อย่างไม่เป็นทางการ รอดูอีก 2-3 วัน แล้วค่อยยืนยันอีกที
• แนวโน้มราคาน้ำมันดิบ — ขยับขึ้นมาที่ $65.3x หลังจากลงไปที่ $63 เมื่อปลายสัปดาห์ก่อน แต่หลังจากร่วงจากระดับ $70 ตั้งแต่ต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2560 เป็นต้นมา แนวโน้มก็จึงยังเป็นขาลงอยู่
• แนวโน้มราคาทองคำ — ทรงตัวอยู่ที่ $1,32x และแนวโน้มยังอยู่ในขาลง
• การซื้อขายสุทธิในตลาดหุ้นของนักลงทุนกลุ่มต่าง ๆ — ต่างชาติขายหนักต่อไป ส่วนรายย่อยยังไล่ซื้อ และหุ้นตก ต่างชาติถือเงินสด รายย่อยถือหุ้น (ที่ตก)

(กราฟจากบริการเอสเพนโดยไทยเควสต์)

• Snapshot ราคาตราสารหนี้ทั่วโลก (ข้อมูลจาก CNBC) — ราคาร่วงลง เพราะอัตราผลตอบแทน (Yield) ขยับขึ้น (ราคา vs ผลตอบแทน ของตราสารหนี้ จะแปรผกผันกัน)

• Snapshot ตลาดหุ้นที่สำคัญทั่วโลก (ข้อมูลจาก CNBC) — ดัชนีหลักบวกเล็กน้อย แต่ก็บวกกันเป็นส่วนใหญ่

ชวนทำความเข้าใจ

• สัญญาณขาขึ้นขาลงที่อยู่ในกราฟ (ตัวหนังสือ MACD พร้อมหัวลูกศร) มาจากเครื่องมือ MACD ซึ่งสัญญาณนั้นเป็น “ผล” จาก “เหตุปัจจัยต่าง ๆ” เท่านั้น ไม่ว่าจะเป็น การเมืองไทย การเมืองโลก เศรษฐกิจไทย เศรษฐกิจโลก ภาวะธุรกิจตลอดจนข่าวของบริษัทเอง ฯลฯ … เราจึงดูกราฟเพื่อให้รู้ว่าปัจจัยต้นเหตุต่าง ๆ การคาดการณ์ต่าง ๆ ในช่วงนี้ ส่งผลต่อแนวโน้มราคาในระยะนี้ต่อไปถึงอนาคต “ใกล้ ๆ” อย่างไรบ้าง … แต่เราไม่สามารถเอากราฟซึ่งเป็น “ผล” กลับไปพยากรณ์ “เหตุ” ในอนาคตไกล ๆ ได้ ไม่ว่าจะใช้เครื่องมืออะไร หรือแนวเทคนิกแบบไหนก็ตาม
• ข้อมูลตลาดหุ้นจะใช้ SET Index เป็นตัวแทน เพื่อให้นำเสนอข้อมูลภาพรวมได้จริงในทางปฏิบัติ ภาวะของหุ้นรายตัวอื่น ๆ อาจต่างไปจากภาวะของตลาดโดยรวมก็ได้ นักลงทุนจึงควรพิจารณาสถานะของหุ้นรายตัวที่นักลงทุนสนใจ ควบคู่กันไป