Financial Markets Update

22 เม.ย. 63| แนวโน้ม SET Index และภาวะลงทุนรอบโลก

  • SET Index — ช่วงเช้าลงไปลบเยอะ นึกว่าจะแย่ตามตลาดต่างประเทศเมื่อคืนเสียแล้ว แต่สุดท้ายวันนี้ก็ปิดบวก 9 จุด ที่ระดับ 1,262 จุด // แนวโน้มระยะสั้น ยังคง เป็นขาขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่ 20 (ตั้งแต่ระดับดัชนี 1,080 จุด) ซึ่งคือมากกว่าครึ่งเดือนมาแล้ว // แนวโน้มระยะกลาง เปิดต้นสัปดาห์มาบวกแรง แนวโน้มพลิกเป็นขาขึ้นอย่างไม่เป็นทางการ เพราะแนวโน้มระยะกลาง เราดูข้อมูลแบบ Weekly จึงต้องรอดูปลายสัปดาห์อีกที .. โดยที่แนวโน้มขาลง/ขาขึ้น ให้ดูที่ทิศทางลูกศร MACD และแถบสีเขียว (แนวโน้มดีต่อนักลงทุน)/สีแดง (แนวโน้มแย่ต่อนักลงทุน) ในกราฟ
  • การซื้อขายสุทธิในตลาดหุ้นของนักลงทุนกลุ่มต่าง ๆ — ในภาพรวม ต่างชาติยังเป็นฝั่งขายสุทธิต่อเนื่องมาตั้งแต่ปีก่อน ขายได้ขายดี เฉพาะปีนี้ขายสุทธิมากกว่า 1.1 แสนล้านบาทแล้ว และวันนี้ขายสุทธิ 2.8 พันล้านบาท
  • ค่าเงินบาทเทียบ USD — ค่าเงินแข็งค่าเร็ว มาอยู่ที่ 32.33 THB/USD แต่แนวโน้มระยะกลางยังคงเป็นฝั่งอ่อนค่ามาตั้งแต่ พ.ย. 62
  • ราคาน้ำมันดิบ — ย่อตัวแรงแบบมีดราม่ามากมาย (ราคา WTI Futures — May 2020 ติดลบ)
  • ทองคำ — ขยับขึ้นเล็กน้อยจากปลายสัปดาห์ก่อน แนวโน้มยังเป็นขาขึ้น

  • Snapshot ตลาดหุ้นที่สำคัญ (ข้อมูลจาก tradingeconomics.com / cnbc.com) — ส่วนใหญ่บวก
  • Snapshot ตลาดตราสารหนี้ไทย (ข้อมูลจาก ThaiBMA.or.th) — ตราสารหนี้ภาครัฐส่วนใหญ่ราคาเพิ่มขึ้น // ตราสารหนี้เอกชนราคาเพิ่มขึ้นเช่นกัน แต่ไม่มาก .. โดยที่ ราคา vs ผลตอบแทน ของตราสารหนี้ จะแปรผกผันกัน (อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับกลไกอัตราดอกเบี้ยและราคาตราสารหนี้ได้ ที่นี่)

  • สัญญาณขาขึ้นขาลงที่อยู่ในกราฟ (ตัวหนังสือ MACD พร้อมหัวลูกศร) มาจากเครื่องมือ MACD ซึ่งสัญญาณนั้นเป็น “ผล” จาก “เหตุปัจจัยต่าง ๆ” เท่านั้น ไม่ว่าจะเป็น การเมืองไทย การเมืองโลก เศรษฐกิจไทย เศรษฐกิจโลก ภาวะธุรกิจตลอดจนข่าวของบริษัทเอง ฯลฯ … เราจึงดูกราฟเพื่อให้รู้ว่าปัจจัยต้นเหตุต่าง ๆ การคาดการณ์ต่าง ๆ ในช่วงนี้ ส่งผลต่อแนวโน้มราคาในระยะนี้ต่อไปถึงอนาคต “ใกล้ ๆ” อย่างไรบ้าง … แต่เราไม่สามารถเอากราฟซึ่งเป็น “ผล” กลับไปพยากรณ์ “เหตุ” ในอนาคตไกล ๆ ได้ ไม่ว่าจะใช้เครื่องมืออะไร หรือแนวเทคนิกแบบไหนก็ตาม
  • ข้อมูลตลาดหุ้นจะใช้ SET Index เป็นตัวแทน เพื่อให้นำเสนอข้อมูลภาพรวมได้จริงในทางปฏิบัติ ภาวะของหุ้นรายตัวอื่น ๆ อาจต่างไปจากภาวะของตลาดโดยรวมก็ได้ นักลงทุนจึงควรพิจารณาสถานะของหุ้นรายตัวที่นักลงทุนสนใจ ควบคู่กันไป