Financial Markets Update

30 พ.ย. 63 | แนวโน้ม SET Index และภาวะลงทุนรอบโลก


SET Index — ปิดลบ 29.47 จุด ย่อลงไปอยู่ที่ 1,408.31 จุด // แต่ แนวโน้มระยะกลาง (ดูภาพหลายสัปดาห์ถึงหลายเดือน) ก็ยังคงเป็นขาขึ้นมาตั้งแต่ 5 พ.ย. 63 .. ส่วนตลอดปีนี้ยังให้ผลตอบแทนติดลบ 11% // แนวโน้มขาลง & ขาขึ้น ให้ดูที่ทิศทางลูกศร MACD และแถบสีเขียว (แนวโน้มดีต่อนักลงทุน)/สีแดง (แนวโน้มแย่ต่อนักลงทุน) ในกราฟด้านล่างนี้

  • ดัชนี NASDAQ 100 ซึ่งสะท้อนราคาหุ้นเทคโนโลยีชั้นนำในสหรัฐฯ 100 ตัว ปีนี้บวกขึ้นมาแรง ให้ผลตอบแทน Year-to-date บวก 41% แนวโน้มยังคงเป็นขาขึ้นต่อเนื่องจากต้นเดือน
  • การซื้อขายสุทธิในตลาดหุ้นของนักลงทุนกลุ่มต่าง ๆ ใน SET Index — ในภาพรวม ต่างชาติยังเป็นฝั่งขายสุทธิต่อเนื่องมาตั้งแต่ปีก่อน ซึ่งเฉพาะปีนี้ ขายสุทธิรวมกันประมาณ 2.7 แสนล้านบาท แล้วพอเข้าช่วงเดือน พ.ย. 63 ต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิหนักมือและต่อเนื่อง จะมีเสียประวัติก็วันสุดท้ายของเดือนนี่เองที่ขายสุทธิ 4.4 พันล้านบาท
  • ค่าเงินบาทเทียบ USD — ทรงตัวที่ระดับ 30.245 THB/USD และแนวโน้มระยะกลางเป็นฝั่งแข็งค่า เป็นปัจจัยเสริมต่อการลงทุนในประเทศ (ถือสินทรัพย์ไทยมีมูลค่าเพิ่มขึ้นอัตโนมัติในเทอมของเงินสกุลต่างชาติ) แต่ไม่ดีต่อการส่งออกและการลงทุนในต่างประเทศโดยนักลงทุนไทย (คูณค่าเงินกลับมาแล้วมีมูลค่าลดลง)
  • ราคาน้ำมันดิบ — ก่อนหน้านี้ฟื้นตัวแรงมาติดกัน 4 สัปดาห์ ก่อนวันนี้จะย่อลงเล็กน้อย แต่แนวโน้มก็ยังเป็นขาขึ้น ช่วยดันดัชนีหุ้นไทยที่มีหุ้นพลังงานเป็นหลักอยู่
  • ทองคำ — หุ้นยังอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น ทองคำก็โดนเทแรง แนวโน้มระยะกลางยังเป็นขาลงมาตั้งแต่ปลายเดือน ส.ค. 63

  • Snapshot ตลาดหุ้นที่สำคัญทั่วโลก ค่ำนี้ (ข้อมูลจาก tradingeconomics.com / cnbc.com) — ส่วนใหญ่ลบเล็กน้อย
  • snapshot ตลาดตราสารหนี้ไทย (ข้อมูลจาก ThaiBMA.or.th) — ราคาตราสารหนี้ภาครัฐและเอกชน บวกเล็กน้อย ซึ่งจะสะท้อนไปยังราคากองทุนตราสารหนี้ประเภทต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง .. โดยที่ ราคา vs ผลตอบแทน ของตราสารหนี้ จะแปรผกผันกัน (อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับกลไกอัตราดอกเบี้ยและราคาตราสารหนี้ได้ ที่นี่)

บอกกล่าว

  • สัญญาณขาขึ้นขาลงที่อยู่ในกราฟ (ตัวหนังสือ MACD พร้อมหัวลูกศร) มาจากเครื่องมือ MACD ซึ่งสัญญาณนั้นเป็น “ผล” จาก “เหตุปัจจัยต่าง ๆ” เท่านั้น ไม่ว่าจะเป็น การเมืองไทย การเมืองโลก เศรษฐกิจไทย เศรษฐกิจโลก ภาวะธุรกิจตลอดจนข่าวของบริษัทเอง ฯลฯ … เราจึงดูกราฟเพื่อให้รู้ว่าปัจจัยต้นเหตุต่าง ๆ การคาดการณ์ต่าง ๆ ในช่วงนี้ ส่งผลต่อแนวโน้มราคาในระยะนี้ต่อไปถึงอนาคต “ใกล้ ๆ” อย่างไรบ้าง … แต่เราไม่สามารถเอากราฟซึ่งเป็น “ผล” กลับไปพยากรณ์ “เหตุ” ในอนาคตไกล ๆ ได้ ไม่ว่าจะใช้เครื่องมืออะไร หรือแนวเทคนิกแบบไหนก็ตาม
  • อ่านเพิ่มเติมเรื่อง MACD ได้ >> ที่นี่ (หลักการ) และ ที่นี่ (การดูแนวโน้ม)
  • ข้อมูลตลาดหุ้นจะใช้ SET Index เป็นตัวแทน เพื่อให้นำเสนอข้อมูลภาพรวมได้จริงในทางปฏิบัติ ภาวะของหุ้นรายตัวอื่น ๆ อาจต่างไปจากภาวะของตลาดโดยรวมก็ได้ นักลงทุนจึงควรพิจารณาสถานะของหุ้นรายตัวที่นักลงทุนสนใจ ควบคู่กันไป